ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยนักลงทุนยังคงเทขายดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเช้านี้ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ระดับ 96.48
ค่าเงินยูโรเช้านี้แข็งค่าขึ้นแตะ 1.1207 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.1092 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนเช้านี้ปรับแข็งค่าแตะระดับ 116.85 เยน/ดอลลาร์ในเช้านี้
ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ พบว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายงานสัปดาห์ออกมาแย่กว่าที่คาดแตะระดับ 285,000 ราย โดยเพิ่มขึ้น 800,000 ราย ซึ่งถึงแม้จะปรับตัวสูงขึ้นแต่ก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 47
ด้านข้อมูลคำสั่งซื้อภาคโรงงานอุตสาหกรรมเดือนมกราคมออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์แตะระดับ -2.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี ขณะที่ในเดือนก่อนหน้าปรับทบทวนออกมาแย่ลงจากเดิมสู่ระดับ -0.7%
นางลอเร็ตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์ ระบุว่า การจ้างงานและรายได้ที่เติบโตขึ้นบ่งบอกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง และจะสามารถผ่านพ้นความผันผวนของตลาดในช่วงเวลานี้ไปได้ ดังนั้นจึงคาดว่าเฟดจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ตามแผนที่วางไว้
รายงานของ ธนาคารโลก ระบุว่า การเติบโตของภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ อาจจะเติบโตได้เพียง 2.6%จากที่ก่อนหน้านี้คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ 2.8% ในรายงานเดือน ต.ค. เนื่องจากสงครามในซีเรียที่ยืดเยื้อมายาวนานกว่า 5 ปี ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้านรายอื่นๆ และการร่วงลงของราคาน้ำมันที่อยู่ระดับ 30 เหรียญ/บาร์เรล จากระดับกว่า 100 เหรียญ/บาร์เรล เมื่อ 2 ปีก่อน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภูมิภาคดังกล่าวซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมัน และทำให้งบประมาณทางการคลังขาดดุลมากขึ้นเนื่องจากรายได้ที่ลดลง
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจยูโรโซน หลังจากที่เผชิญกับการฟื้นตัวที่ล่าช้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าคาดการณ์ และอัตราว่างงานที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 2 หลัก จึงคาดว่าจีดีพีในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1.7% จากคาดการณ์เดิม 1.8%
อย่างไรก็ดี EC ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 แต่ระดับการขยายตัวนั้นยังคงต่ำอยู่
น้ำมันดิบ WTI ปิด -1.7% ที่ระดับ 31.72 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ Brent ปิด -1.7% เช่นกัน ที่ระดับ 34.46 เหรียญ/บาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันจากการเทขายทำกำไรหลังจากที่ราคาปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่งสัปดาห์หน้า รวมทั้งความไม่แน่นอนที่ว่ากลุ่มประเทศผลิตน้ำมันรายใหญ่จะปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่
รายงานล่าสุดจาก MKS Group ระบุว่า อิหร่านซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกของโอเปก แสดงความคิดเห็นว่า กลุ่มโอเปก และกลุ่มผู้ผลิตนอกโอเปกจำเป็นต้องจัดการประชุมในเร็วๆนี้