MTS Help Center

ค่าเงินดอลลาร์ ปรับแข็งค่าขึ้นหลังอัตราว่างงานปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี ขณะที่อัตราค่าจ้างปรับตัวขึ้นเกินคาด โดยเช้านี้ดัชนีดอลลาร์ยังคงปรับตัวขึ้นต่อแตะระดับ 97.047

ค่าเงินยูโรเช้านี้ร่วงลงบริเวณ 1.1147 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.1207 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนเช้านี้อ่อนค่าขึ้นเช่นกันแตะบริเวณ 117.09 เยน/ดอลลาร์

ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ พบว่า ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯในเดือนมกราคมออกมาแย่ลงกว่าที่คาดไว้แตะระดับ 151,000 ตำแหน่ง โดยปรับตัวลดลง 111,000 ตำแหน่งเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม ซึ่งในเดือนธันวาคมนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐฯมีการปรับทบทวนข้อมูลเดิมให้ปรับลดลงประมาณ 30,000 ตำแหน่งสู่ระดับ 262,000 ตำแหน่ง

ด้านอัตราการว่างงานในเดือนมกราคมปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี ที่ระดับ 4.9%ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2008 และอัตราค่าจ้างเฉลี่ยปรับตัวขึ้นเกินคาดแตะระดับ 0.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีทั้งนี้ ข้อมูลการจ้างงานที่ผันผวนส่งผลให้นักวิเคราะห์บางส่วน ระบุว่า ข้อมูลการจ้างงานที่แตกต่างกัน ไม่ได้สร้างความชัดเจนใดๆต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก FTN Financial กล่าวว่า กลุ่มผู้กำหนดนโยบายการเงินของเฟด ได้ประเมินถึงการขยายตัวของภาคการจ้างงานที่ชะลอลงมาหลายเดือนแล้ว ดังนั้น การชะลอตัวครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะสร้างความผ่อนคลายให้แก่เฟดมากกว่าที่ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะอ่อนแอทางเศรษฐกิจขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดว่ามีโอกาสมากขึ้นที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากมีการเปิดเผยอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 8 ปี และการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าจ้าง จึงส่งผลให้แนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้ออาจจะปรับตัวเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ที่เฟดกำหนด

ธนาคารกลางจีน เผย ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนปรับตัวลดลง 9.95 หมื่นล้านเหรียญ แตะระดับ 3.23 ล้านล้านเหรียญ ณ สิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับการหดตัวน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012 และสะท้อนว่าธนาคารกลางจีนมีการเทขายดอลลาร์ออกมา ท่ามกลางการปรับลดค่าเงินหยวนให้แตะระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 5 ปี

กลุ่มผู้กำหนดนโยบายของจีนกำลังพยามจัดการกับการอ่อนค่าของค่าเงินหยวน ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน การร่วงลงของตลาดหุ้น และการเพิ่มขึ้นของเงินทุนไหล หลังจากที่การปรับลดค่าเงินหยวนในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เงินทุนสำรองร่วงลง 9.4 หมื่นล้านเหรียญเป็นประวัติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระดับรายเดือน ก่อนที่กระแสเงินทุนในเดือนธันวาคมจะร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมายอีกกว่า 1.08 แสนล้านเหรียญ

น้ำมันดิบ WTI ปิด -2.6% ที่ระดับ 30.89 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -1.2%ที่ระดับ 34.06 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางความกังวลของตลาดเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกจะสูงเกินความต้องการ เนื่องจากบรรดาผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ยังไม่มีแนวโน้มจะปรับลดกำลังการผลิต แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงอย่างหนัก

รายงานจากสำนักข่าว Nasdaq ระบุว่า หลังจากที่เกาหลีเหนื่อยทำการปล่อยจรวด ทางสหรัฐฯและเกาหลีใต้ได้ทำการเจรจาร่วมกันอย่างเป็นทางการเพื่อหาทางรับมือป้องกันขีปนาวุธในเกาหลีใต้