MTS Help Center

นักเศรษฐศาสตร์จาก Wells Fargo ระบุว่า สัญญาณหนึ่งของตลาดแรงงานที่แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานเริ่มตึงตัวแล้ว คือ การที่ค่าจ้างปรับตัวสูงขึ้น โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวเลขอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น 0.5% และอัตราการว่างงานปรับตัวลดลงสู่ 4.9% ขณะที่การจ้างงานนอกภาคเกษตร เพิ่มขึ้น 1.51 แสนตำแหน่ง

อย่างไรก็ตามเมื่อสังเกตถึงภาคการผลิตและภาคบริการ จะพบความแตกต่างกันอย่างมาก โดยถึงแม้ว่าการจ้างงานในภาคการผลิตจะเพิ่มขึ้นบ้างก็ตาม แต่การจ้างงานในธุรกิจเหมืองแร่ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 11 ขณะที่การจ้างงานในภาคบริการเพิ่มขึ้นถึง 1.18 แสนตำแหน่ง

แต่ทั้งนี้การที่ค่าจ้างเพิ่มขึ้น ในขณะที่ภาคการผลิตที่ยังไม่สดใสนัก จะกดดันให้กำไรของภาคเอกชนปรับตัวลดลง และจะส่งผลต่อเนื่องให้ภาคเอกชนมีความต้องการจ้างงานและลงทุนต่ำลงไปด้วยโดย Wells Fargo คาดว่าเฟดไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม และอาจไม่ขึ้นในเดือนกรกฎาคมด้วย หากการจ้างงานยังคงส่งสัญญาณว่าภาคเศรษฐกิจอาจชะลอตัว

ทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนร่วงลงติดต่อกันเดือนที่ 3 ในเดือนมกราคม จากการที่ธนาคารกลางจีนทำการเทขายค่าเงินดอลลาร์เพื่อปกป้องสกุลเงินหยวน เนื่องจากกระแสเงินไหลออกจากประเทศที่เพิ่มมากขึ้น

การสำรองเงินทุนของจีนในเดือนมกราคมนั้นปรับตัวลดลง 9.95 หมื่นล้านเหรียญ ทำให้ทุนสำรองฯลดลงแตะระดับ 3.23 ล้านล้านเหรียญ และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2012 แต่ก็ยังลดลงน้อยกว่าผลสำรวจนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ส ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงแตะระดับ 3.2 ล้านล้านเหรียญ

การลดลงของทุนสำรองในเดือนมกราคม เป็นจำนวนการลดลงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 โดยอันดับ 1 นั้นคือการลดลงในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งลดลงกว่า 1.079 แสนล้านเหรียญ เพราะเนื่องการจากพยายามปกป้องค่าเงินหยวนไมให้อ่อนค่าลง     รุนแรงเกินไป หลังจากที่ธนาคารกลางจีนประกาศอ่อนค่าเงินหยวนลงเองอย่างฉับพลันในเดือนสิงหาคม

อย่างไรก็ตาม แม้ทุนสำรองฯจะลดลงอย่างมาก แต่ทุนสำรองฯของจีนยังคงเป็นทุนสำรองฯที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าจะลดลงไปแล้วประมาณ 4.2 แสนล้านเหรียญในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยรวมแล้วในปี 2015 ทุนสำรองฯลดลงไป 5.13 แสนล้านเหรียญ ซึ่งเป็นระดับการร่วงลงรายปีมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ ขณะที่ตลาดเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 0.18 เหรียญ/บาร์เรล สู่ระดับ 31.07 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง หลังจากที่ปรับตัวลดลงถึง 0.83 เหรียญ/บาร์เรล ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

เมื่อวานนี้ซาอุดิอาระเบียและเวเนซุเอลา ได้ปรึกษากันเกี่ยวกับความร่วมมือในการยกระดับราคาน้ำมันดิบ โดยรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ได้ระบุว่า การหารือดังกล่าวมีขึ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่ยังไม่มีข้อตกลงใดๆต่อกันอย่างไรก็ตามรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของเวเนซุเอลา ระบุว่า การเข้าหารือกับซาอุดิอาระเบียนั้นประสบผลทั้งนี้มุมมองต่อการปรับลดอุปทานเพื่อยกระดับราคาน้ำมันดิบนั้น นักลงทุนในตลาดยังคงเคลือบแคลงว่าไม่น่าจะสามารถทำได้จริง

นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า ตลาดกำลังจับตามองไปยังถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ต่อสภาคองเกรส และปริมาณสต็อกน้ำมันดิบ ในวันพุธนี้