วันนี้ทองคำยังคงปรับตัวขึ้นแถวระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง และหนุนการฟื้นตัวของกลุ่มโลหะมีค่า จึงทำให้ทองคำมีระดับการปรับตัวที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011
ทองคำยังคงปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 8 วันทำการ โดยนักลงทุนยังคงเลือกถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่เผชิญกับความไร้เสถียรภาพของตลาดการเงินต่างๆ ท่ามกลางสภาพคล่องในตลาดเอเชียที่ชะลอตัวลง จากการที่ตลาดหุ้นจีนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในสัปดาห์นี้จากเทศกาลตรุษจีน
นักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ส ระบุว่า หากทองคำยังคงปรับขึ้นได้ต่ออย่างมั่นคงในวันนี้ อาจส่งผลให้ทองคำมีการฟื้นตัวที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วง 11 วันที่เคยเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี 2011
นักกลยุทธ์จาก CMC Markets กล่าวว่า ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนทองคำคือการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ และได้ลดความต้องการถือครองในฐานะสินทรัพย์เสี่ยง จึงทำให้มีปริมาณความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี มีโอกาสที่เราจะเห็นราคาทองคำแถวระดับ 1,200 เหรียญอีกครั้ง หากปัจจัยต่างๆเกื้อหนุนต่อการฟื้นตัว
นอกจากนี้ จะเห็นถึงการถือครองทองคำที่เพิ่มขึ้น โดยในกลุ่มกองทุนถือครองทองคำขนาดใหญ่ 8 แห่งของ ETFs มีการถือครองทองคำเพิ่มขึ้นสุทธิ 43.3 ล้านออนซ์ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับการเข้าถือครองมากที่สุดนับตั้งแต่กรกฎาคมปี 2015
ขณะเดียวกันเราจะเห็นถึงกระแสเงินที่ไหลเข้าสู่ตลาดทองคำนับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นปี ที่เพิ่มขึ้นกว่า 8% และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วง 5 สัปดาห์ นับตั้งแต่มีนาคมปี 2011
ในปีนี้ ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในดัชนี Bloomberg Commodity Index โดยปรับตัวสูงขึ้นกว่า 13% โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้น ซึ่งเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยุโรป และตลาดเกิดใหม่ ต่างปรับตัวลดลง
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า กองทุน ETF ถือครองทองคำเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 15 วันทำการ ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2012
นักกลยุทธ์อาวุโสจาก RJO Futures ระบุว่า ขณะนี้ทองคำกำลังปรับตัวสูงขึ้น โดยแรงเทขายในตลาดหุ้นส่งผลให้เกิดความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย
นักวิเคราะห์จาก Citi Group กล่าวว่า ภาวะตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนและปรับตัวลงอย่างหนัก จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและไม่มีใครจะต้านทานได้
โดย 4 แนวโน้มหลักที่สร้างแรงกดดันต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและตลาดต่างๆ คือมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ (ดอลลาร์แข็งค่า), การปรับตัวลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์, ความเบาบางของการซื้อขายและกระแสเงินไหลออก, รวมทั้งภาวะหดตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดประเทศเกิดใหม่
นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone กล่าวว่า ทองคำยังมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นได้ต่อในระยะสั้น จากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นทั่วโลก การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ รวมทั้งสัญญาณทางเทคนิคที่แข็งแกร่งของทองคำ ซึ่งทองคำอาจทรงตัวแถวระดับ 1,205 - 1,215 เหรียญ ก่อนที่จะปรับขึ้นต่อที่ระดับ 1,235 เหรียญ
Goldman คาดการณ์ว่า ทองคำจะแตะระดับ 1,100 เหรียญในช่วงเวลา 3 เดือน และจะอยู่ที่ระดับ 1,050 เหรียญในอีก 6 เดือน ขณะที่จะแตะระดับ 1,000 เหรียญในอีก 12 เดือน แม้ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปแต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นอยู่ ขณะที่จีนและรัสเซียมีการลดปริมาณการเข้าซื้อทองคำ จึงอาจเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะขาลงของทองคำ
อย่างไรก็ดี กลุ่มนักลงทุนมีการลดกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ออกไป ท่ามกลางการทรุดตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ จึงทำให้ ณ ขณะนี้ เฟดอาจจะไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ซึ่งลดลงจากผลสำรวจของ Bloomberg ในช่วงเริ่มต้นปีที่คาดว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมกว่า 51%