ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -0.62% ที่ระดับ 15,914.74 จุด หลังจากประธานเฟดแสดงความกังวลต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯและเศรษฐกิจโลก ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นยุโรปปิด +1.9% ที่ระดับ 315.19 จุด จากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคารกว่า 6.9% หลังจากที่ธนาคารดอยซ์แบงก์ เตรียมเข้าซื้อคืนหุ้นกู้บางส่วน จึงทำให้หุ้นกลุ่มดอยซ์แบงก์ปรับตัวขึ้นกว่า 10% และทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลต่อภาคธนาคารในยูโรโซน
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากประธานเฟดยังคงส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดแดนลบ และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00 – 35.40 บาท/ดอลลาร์ หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมนี้ จึงทำให้มีแรงเทขายในค่าเงินดอลลาร์
ในวันนี้ ภาคธนาคารและตลาดการเงินของญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันระลึกการก่อตั้งประเทศ (National Foundation Day) ขณะที่ตลาดหุ้นจีน ไต้หวัน และเวียดนาม ยังคงปิดให้บริการในช่วงหยุดยาวของเทศกาลตรุษจีน
ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า จีดีพีไทยจะขยายตัวได้ 3.5% จากภาครัฐที่มีความพยายามที่จะกระตุ้นความเชื่อมั่นจากการลงทุนต่างๆ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แม้การลงทุนภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ รวมกันจะคิดเป็น 5% ของ จีดีพี แต่มองว่านโยบายต่างๆ ที่ออกมา โดยเฉพาะการลงทุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน อย่างเช่น รถไฟทางคู่ ฯลฯ ก็น่าจะเรียกความเชื่อมั่นการลงทุนของภาคเอกชนให้เกิดการลงทุนตาม ขณะที่ด้านงบลงทุนในปีนี้มองว่าเพิ่มขึ้น 20% ซึ่งอัตราการเบิกจ่ายก็น่าจะดีขึ้นตามไปด้วย