MTS Help Center

จากภาพข้างต้น เส้นสีน้ำเงินหมายถึงดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์โดย Bloomberg (Bloomberg Commodity Index)และเส้นสีขาวหมายถึงราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือนในวันนี้ นับตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. ปีที่ผ่านมา หลังจากที่ประธานเฟด นางเจเน็ต เยลเลน ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยได้ช้าลงหากความผันผวนในตลาดโลกยังคงมีอยู่ต่อไป

หากวันนี้ราคาทองคำสามารถยืนในแดกบวกได้อีกครั้ง จะเป็นการปรับตัวสูงขึ้น 9 วันทำการ ใน 10 วันทำการที่ผ่านมา

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ทองคำเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปีนี้

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ เนื่องจากความผันผวนในตลาดการเงิน ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้น โดยเมื่อวานนี้ประธานเฟด ได้ระบุว่า ความผันผวนดังกล่าวทำให้ปัจจัยด้านตลาดการเงินแย่ลง โดยการทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง, ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นบางส่วน

อย่างไรก็ตามดัชนีดอลลาร์โดย Bloomberg ระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 1.3% ในปีนี้ หลังจากที่แข็งค่าขึ้นมาต่อเนื่อง 3 ปี

รายงานจาก World Gold Council ระบุว่า ในปีนี้การซื้อทองคำของจีนและอินเดีย ทั้งในรูปของแท่ง, เหรียญ และรูปพรรณ น่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากความผันผวนในตลาดหุ้นและความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

ผู้อำนวยการของ World Gold Council ประจำอินเดีย ระบุว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความปั่นป่วนอยู่บ้าง ดังนั้นจึงทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ดีในการรักษาความมั่งคั่งเอาไว้ และเราเห็นประชาชนในจีนและอินเดียกำลังเข้าซื้อทองคำมากขึ้น

จากรายงานฯ จีนและอินเดียบริโภคทองคำมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกในปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาสที่ 4/2015 การเข้าซื้อทองคำของจีนเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4/2014 และเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบปี 2015 กับปี 2014

ทั้งนี้จีนซื้อทองคำทั้งสิ้น 984.5 ตัน และอินเดียซื้อทองคำ 848.9 ตัน ในปี 2015

หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ ประจำ Societe Generale SA ระบุว่า การที่ประธานเฟดมีน้ำเสียงที่แสดงถึงความระมัดระวัง และย้ำเตือนถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน เป็นการส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตจะช้าลง และทองคำได้รับประโยชน์จากการเข้าซื้อทองคำจริงจากกองทุน ETF

เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา นักลงทุนในตลาดฟิวเจอร์ส เคยประเมินว่าโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. มากกว่า 50% ขณะที่ปัจจุบันเหลือน้อยกว่า 30%

นักวิเคราะห์จาก ANZ กล่าวว่า ประธานเฟด ระบุอย่างชัดเจนว่าเฟดยังต้องการที่จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่การดำเนินการนั้นก็ไม่ได้กำหนดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด โดยต้องรอดูความเหมาะสมก่อน ดังนั้นทองคำจึงอาจได้รับแรงหนุนจากมุมมองดังกล่าวของเฟด