MTS Help Center

ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลกที่ส่งผลให้นักลงทุนต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเช้านี้ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวบริเวณ 95.66

ขณะที่เมื่อวานนี้ค่าเงินเยนร่วงลงกว่า 2% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ โดยลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 110.99 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับการแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 15 เดือน จากการเข้าถือครองในฐานะ Safe-Heaven ขณะที่เช้านี้ปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่าที่ระดับ 112.32 เยน/ดอลลาร์ ด้านค่าเงินยูโรเช้านี้ยังทรงตัวในทิศทางแข็งค่าบริเวณ 1.1309 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.1272 ดอลลาร์/ยูโร

เมื่อคืนนี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวแถลงการณ์การดำเนินนโยบายการเงินต่อคณะกรรมาธิการกำกับดูแลภาคธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยยังคงย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกสร้างความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะรู้ว่าความเสี่ยงดังกล่าวมีความรุนแรงมากพอที่จะทำให้เฟดเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ พบว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงเกินคาดแตะระดับ 269,000 ราย หรือปรับตัวลงกว่า 16,000 ราย และยังต่ำกว่าระดับ 300,000 รายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 48 จึงยังบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน

ธนาคารกลางสวีเดินประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับติดลบมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ แตะระดับ -0.5% จากเดิมที่ระดับ -0.35% รวมทั้งมีการขยายมาตรการเข้าซื้อพันธบัตร เพื่อนำเงินจากพันธบัตรที่ครบกำหนดอายุกลับเข้าลงทุนในตลาด ซึ่งธนาคารกลางจะพิจารณาแนวทางผ่อนคลายอื่นๆ รวมถึงการเข้าแทรกแซงค่าเงินของประเทศเพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อ

น้ำมันดิบ WTI ปิด -4.5% ที่ระดับ 26.21 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -2.5% ที่ระดับ 30.06 เหรียญ/บาร์เรล หลังจาก EIA เผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบในรัฐโอกลาโฮมาซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใกล้ระดับ 65 ล้านบาร์เรล ขณะที่ทางอิหร่านประกาศตั้งราคาขายน้ำมันให้แก่ลูกค้าเอเชียในราคาที่ต่ำกว่าซาอุดิอาระเบีย จึงสะท้อนให้เห็นว่า อิหร่านพร้อมจะตัดราคาเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดที่หายไปในช่วงที่ถูกคว่ำบาตร

Goldman Sachs ระบุว่า ภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดและภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจจีน จะกดดันให้ราคาน้ำมันดิบในช่วงครึ่งปีหลังยังอยู่ในระดับต่ำ และจะมีการแกว่งตัวระหว่าง 20-40 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางควมผันผวนที่ยังคงมีอยู่สูง