MTS Help Center

ดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้นในวันนี้ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ และไม่ตอบรับกับการประกาศข้อมูลจีดีพีในประเทศเมื่อเช้านี้ ที่หดตัวลง 1.4% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา หลังจากที่ในวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวร่วงลงระดับสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008

วันนี้ดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้นกว่า 7.16% ที่ระดับ 16,022.58 จุด หลังจากที่ปิดระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2014 โดยร่วงลงกว่า 11% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นในวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งการปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ส่งสัญญาณว่าหุ้นญี่ปุ่นถูกขายมากเกินไป(Oversold) และแรงหนุนการตัวเลขจีดีพีญี่ปุ่นในวันนี้ที่ออกมาแย่ กดดันให้บีโอเจออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

ดัชนีเซี่ยงไฮ้ของจีนวันนี้ ปิด -0.63% สู่ระดับ 2,746.20 จุด เนื่องจากการปรับหดตัวลงของหุ้นภาคการผลิตและภาคการเงิน ขณะที่หุ้นเหมืองแร่ทองคำปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้น H-Share ของจีน (Hang Seng China Enterprises Index) ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี โดยปรับตัวสูงขึ้น 4.78% สู่ระดับ 7,863.84 จุด

ทั้งนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี Hang Seng China Enterprises Index ซื้อขายกันในระดับ P/E ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2001 หลังจากที่ปรับตัวลดลงกว่า 6.8% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

*ดัชนี Hang Seng China Enterprises Index หรือ H-Share หมายถึงหุ้นของประเทศจีนที่ซื้อขายในตลาดฮ่องกง

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดหุ้นเอเชีย โดยดัชนี the pan-European FTSEurofirst 300 index ปรับตัวสูงขึ้น 2.5% สู่ระดับ 1,262.59 จุด และดัชนี Euro Stoxx 600 index ปรับตัวสูงขึ้น 2.34% สู่ระดับ 319.72 จุด

ที่มา : สภาพัฒน์ฯ

สภาพัฒน์ฯ เผย จีดีพีไทยไตรมาส 4/2015 ขยายตัวได้ 2.8% ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 3/2015 ที่ขยายตัว 2.9%การผลิตนอกภาคเกษตรขยายตัวในเกณฑ์ดี 4.2% แต่การผลิตภาคเกษตรลดลง -3.4% เนื่องจากได้รับ ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง

การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคของเอกชน ขยายตัวร้อยละ 2.5 เร่งตัวขึ้นจากร้อยละ 1.8 ในไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องกับการปรับตัวดีขึ้นของความเชื่อมั่นผู้บริโภค ราคาน้ำมันและเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ

การลงทุนรวม ขยายตัวร้อยละ 9.4 โดยการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 1.9 ปรับตัวดีขึ้นจากที่ลดลงร้อยละ 10.1 ในไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่การลงทุนภาครัฐขยายตัวร้อยละ 41.4 เร่งขึ้นจากร้อยละ 21.9 ในไตรมาสก่อนหน้า

ทั้งนี้สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย(GDP)ในปี 2016 มาที่เติบโตราว 2.8-3.8% หรือมีค่ากลางราว 3.3% ซึ่งลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 3.0-4.0% จากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนและราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ