ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในตลาดเอเชีย หลังจากกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่มีข้อตกลงคงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ แม้ว่ากลุ่มผู้จับตาในตลาดจะยังคงมีข้อสังสัยข้อตกลงดังกล่าวจะมีประสิทธิภาพเพียงใดท่ามกลางภาวะอุปทานล้นตลาดขณะนี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยประมาณ 1.4% ที่ระดับ 29.45 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด +2.0% สู่ระดับ 32.82 เหรียญ/บาร์เรลในตลาดเอเชีย หลังประสบกับภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดสหรัฐฯและยุโรปวานนี้
ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวจากความคาดหวังที่ว่าอาจมีการปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมของกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และความหวังเหล่านั้นก็ถูกบั่นทอนลงหลังจากรัสเซียและซาอุดิอาระเบียเห็นพ้องกันในการคงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในระดับเดือนมกราคมแทน ขณะที่กาตาร์และเวเนซูเอลา เห็นด้วยกับข้อตกลงดังกล่าว เพียงแต่ข้อตกลงดังกล่าวต้องได้รับความร่วมมือจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบรายอื่นๆด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวอาจกลายเป็นการร่วมมือกันเป็นครั้งแรกระหว่างสมาชิกกลุ่มโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกในรอบ 15 ปี ท่ามกลางกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบที่ต้องการผลักดันให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาพลังงานในสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงกว่า 70% นับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนในปี 2014
ขณะที่ อิหร่านแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบอย่างน้อย 500,000 บาร์เรล/วันในปีนี้ หลังจากที่ชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรในเดือนที่ผ่านมา ดังนั้น อิหร่านจึงจะไม่เข้าร่วมกับข้อตกลงในการคงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบอย่างไรก็ดี แหล่งข่าวจากรอยเตอร์ ระบุว่า อิหร่านอาจได้รับข้อเสนอพิเศษสำหรับระดับการผลิตส้ำมันดิบ หากอิหร่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงดังกล่าว
* รัสเซียมีปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับ 10.88 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมกราคม ขณะที่ซาอุดิอาระเบียมีปริมาณการผลิตใกล้ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีปริมาณที่ระดับ 10.2 ล้านบาร์เรล/วัน
ที่มา: CNBC