• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559

    17 กุมภาพันธ์ 2559 | Economic News


นาย นีล คาร์ชคาริ ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส กล่าวว่า เห็นด้วยกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ นายแพทริก ฮาเกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย กล่าวว่า เฟดอาจรอข้อมูลเพิ่มเติมในการพิสูจน์การปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อก่อนจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ขณะที่ นายอีริค โรเซ็นเกร็น ประธานเฟดสาขาบอสตัน กล่าวว่า เฟดไม่ควรเร่งรีบตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ท่ามกลางปัญหาที่เกิดขึ้นจากนานาประเทศ และความผันผวนของตลาดการเงิน



คณะรัฐมนตรีของจีน กำลังพิจารณาปรับลดอัตราส่วนกันสำรองของธนาคารสำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 150%

ทั้งนี้สัดส่วนดังกล่าวยิ่งมากจะยิ่งทำให้กำไรของภาคธนาคารลดลง โดยธนาคาร Industrial & Commercial Bank of China Ltd. กระตุ้นให้ผู้กำกับนโยบายผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว โดยระบุว่าสามารถช่วยให้ธนาคารฯให้สินเชื่อได้มากขึ้นและช่วยหนุนเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว

นักวิเคราะห์จาก DBS Vickers ประจำฮ่องกง ระบุว่า อัตราส่วนกันสำรองดังกล่าวถูกกำหนดไว้ในขณะที่สินเชื่อยังมีคุณภาพดี และสัดส่วน 150% ไม่สมเหตุสมผลแล้วในปัจจุบัน การลดสัดส่วนดังกล่าวลงจะสามารถช่วยสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของสินเชื่อที่แท้จริงและช่วยหนุนกำไรของภาคธนาคาร

ทั้งนี่ภาคธนาคารของจีนมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์ในปี 2015 ปรับตัวสูงขึ้น 51% ทำจุดสูงสุดในรอบทศวรรษสู่ระดับ 1.27 ล้านล้านหยวน อย่างไรก็ตาม Moody’s Investors Service คาดการณ์ว่ายังคงไม่เห็นวิกฤตทางการเงินจากภาคธนาคารของจีนภายใน 12-18 เดือนนี้

คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน วางแผนที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ภายในงบประมาณ 400,000 ล้านหยวน ในไตรมาสนี้ ภายใต้พันธบัตรรูปแบบพิเศษที่อนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถระดมทุนได้เอง และกระตุ้นการลงทุน



ภาพระดับการผลิตน้ำมันของประเทศต่างๆ ที่มา : Bloomberg


ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากอิหร่านส่งสัญญาณว่าจะไม่เข้าร่วมแผนการคงระดับการผลิตน้ำมัน
ดิบ ส่งผลให้ความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาดยังคงมีอยู่ต่อไป

ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาด NYMEX ปรับลดลงในบ่ายวันนี้ -0.68% ที่ระดับ 28.84 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง -0.69% สู่ระดับ 31.96 เหรียญ/บาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวจากความคาดหวังที่ว่าอาจมีการปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมของกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และความหวังเหล่านั้นก็ถูกบั่นทอนลงหลังจากรัสเซียและซาอุดิอาระเบียเห็นพ้องกันในการคงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในระดับเดือนมกราคมแทน ขณะที่กาตาร์และเวเนซูเอลา เห็นด้วยกับข้อตกลงดังกล่าว เพียงแต่ข้อตกลงดังกล่าวต้องได้รับความร่วมมือจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบรายอื่นๆด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวอาจกลายเป็นการร่วมมือกันเป็นครั้งแรกระหว่างสมาชิกกลุ่มโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกในรอบ 15 ปี ท่ามกลางกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบที่ต้องการผลักดันให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาพลังงานในสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงกว่า 70% นับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนในปี 2014

ขณะที่ อิหร่านแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบอย่างน้อย 500,000 บาร์เรล/วันในปีนี้ หลังจากที่ชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรในเดือนที่ผ่านมา ดังนั้น อิหร่านจึงจะไม่เข้าร่วมกับข้อตกลงในการคงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวจากรอยเตอร์ ระบุว่า อิหร่านอาจได้รับข้อเสนอพิเศษสำหรับระดับการผลิตส้ำมันดิบ หากอิหร่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงดังกล่าว

* รัสเซียมีปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับ 10.88 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมกราคม ขณะที่ซาอุดิอาระเบียมีปริมาณการผลิตใกล้ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีปริมาณที่ระดับ 10.2 ล้านบาร์เรล/วัน

Goldman Sachs ระบุว่า การร่วมมือกันของประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบไม่สามารถช่วยหนุนราคาน้ำมันได้ เนื่องจากการคงระดับการผลิตน้ำมันโดยที่ไม่ได้ตัดลดกำลังการผลิตลง คาดว่า จะไม่สามารถทำให้ราคาน้ำมันหยุดการปรับตัวลดลงได้ โดยคาดว่าทำได้เพียงหยุดการเติบโตของสต็อกน้ำมันดิบเท่านั้น


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com