ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิด -0.25% ที่ระดับ 16,413.43 จุด ท่ามกลางภาวการณ์ซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งติดต่อกัน 3 วันทำการก่อหน้า ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแรงลงหลังราคาน้ำมันดิบลดแรงบวกในตลาดซื้อขายเมื่อคืนนี้
ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิด +0.4% ที่ระดับ 328.91 จุด โดยตลาดมีการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนยังวิตกกังวลต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับลดการผลิตในระยะนี้
ขณะที่เช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิด -1.39% หรือ 225.16 จุด ที่ระดับ 15,971.64 จุด เพราะได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่หุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวลงหลังค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น
นักบริหารการเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50 – 35.70 บาท/ดอลลาร์ ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ น่าจะรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามา ขณะที่คืนนี้จะมีการประกาศข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย คาดในปี 2559 จะมีเม็ดเงินจากโครงการ 4G และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 300,000 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ระบบ 4G ราว 100,000-200,000 ล้านบาท และเงินสะพัดจากการทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์อีกไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก0.5-1% และส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 2559 น่าจะขยายตัว 3-3.5%