ทองคำปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการ จากแรงกดดันของนักลงทุนในตลาดการเงินและการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ รวมถึงแนวโน้มสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยทองคำวันนี้ปรับตัวลง 0.5% มีการซื้อขายแถวระดับ 1,225.04 – 1,226.79 เหรียญ/ออนซ์ หลังจากที่ปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1,230.87 เหรียญ (ปรับตัวขึ้น 1.9% หรือกว่า 22.37 หรียญ/ออนซ์)
ด้านกองทุนทองคำ SPDR เข้าซื้อทองเพิ่ม 0.38% สู่ระดับ 713.63 ตัน ขณะที่รายงานยอดส่งออกทองคำของสวิสเซอร์แลนด์ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เช่นเดียวกับจีนและฮ่องกงที่มียอดส่งออกลดลงจากระดับสูงสุดในเดือนที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์จาก Oversea-Chinese Banking Corp’s ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำในปีนี้ ว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,000 – 1,150 เหรียญ จากระดับคาดการณ์ก่อนหน้า 950 เหรียญ โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างๆที่ยังอยู่ในภาวะขาลง รวมทั้งแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
อย่างไรก็ดี ภาพรวมราคาทองคำปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในระดับรายสัปดาห์ หลังจากที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบปีได้เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์จาก Emori Capital Management Inc กล่าวว่า ราคาทองคำเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นกว่า 20 เหรียญ เพราะได้รับแรงหนุนจากการกลับเข้าทำกำไรก่อนช่วงวันหยุดยาว ขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลต่อตลาดการเงินและสภาพเศรษฐกิจทั่วโลก จึงทำให้มีเม็ดเงินลงทุนกลับสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างทองคำ แทนการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างตลาดหุ้น โดยจะเห็นได้ว่า ตลาดทองคำยังคงทรงตัวและมีแรงหนุนจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ภาพรวมปีนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ประมาณ 16% จากกระแสคาดการณ์ของนักลงทุนเกี่ยวกับการปรับขึ้นของเฟดในปีนี้ที่เจือจางลงไป ประกอบกับปัจจัยการใช้อัตราดอกเบี้ยระดับติดลบของญี่ปุ่นและยุโรป จึงทำให้มีการเข้าถือครองทองคำกันมากขึ้น