ทองคำปรับตัวลงท่ามกลางความผันผวนในตลาดหุ้นที่ยังกระตุ้นให้เกิดปริมาณความต้องการทองคำ ขณะที่กองทุนทองคำมีการเข้าซื้อที่สดใสจากกลุ่มนักลงทุน
นักวิเคราะห์จาก Wing Fung Financial Group กล่าวว่า ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ และตลาดหุ้น รวมทั้งความกังวลต่อภาวการณ์ถอนตัวของอังกฤษจากอียู (Brexit) เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ความต้องการหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ค่าเงินอังกฤษยังคงอยู่ใกล้ระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 7 ปี เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ และกว่า 2ปีครึ่งเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน จากความกังวลที่ว่าอังกฤษอาจก้าวออกจากอียู หลังจากที่ นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศจะทำประชามติในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ จึงคาดว่า ราคาทองคำจะมีแรงหนุนที่แข็งแกร่งต่อไปในอีก 2-3 สัปดาห์จากนี้
ภาพรวมราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 16% ตลอดปีนี้ จากการเข้าถือครอง Safe-Haven จากการร่วงลงของตลาดหุ้น ตามราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัว และความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จึงทำให้ราคาทองคำใน 2สัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถทำจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี บริเวณ 1,260.6 เหรียญ
นอกจากนี้ตลาดยังมีแรงหนุนจากการเข้าซื้อของกองทุน SPDR โดยตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นปีมีกระแสเงินไหลออกจากกองทุนเพิ่มขึ้นกว่าปี 2015 ขณะที่ปัจจุบันมีการถือครองที่ระดับ 760.32 ตัน ซึ่งเป็นการเข้าซื้อมากที่สุดนับตั้งแต่มีนาคม 2015
เทรดเดอร์ฮ่องกง กล่าวว่า กองทุน ETFS ยังเป็นเครื่องบ่งชี้ได้ดีว่ามีกระแสเงินไหลเข้าสู่ทองคำ และกระแสเงินที่เริ่มเพิ่มขึ้นอาจทำให้เราเห็นราคาทองคำทรงตัวเหนือ 1,250 เหรียญ
นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Bloomberg ระบุว่า ภาพทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่าการปรับตัวสูงขึ้นของทองคำในปีนี้อาจกำลังจะหมดลง อย่างไรก็ตามการชะลอตัวลงในช่วงนี้อาจเป็นเพียงการ Correction เท่านั้น หากราคาทองคำยังไม่หลุดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 21 วัน บริเวณ 1,185 เหรียญ