• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2559

    4 มีนาคม 2559 | Economic News



นักเศรษฐศาสตร์จาก Wells Fargo ระบุว่า ดัชนีการจ้างงานซึ่งเป็นดัชนีย่อยของดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อคืนนี้ได้ชะลอตัวลงสู่ระดับ 49.7 ซึ่งต่ำกว่า 50 จุด ชี้ว่าการจ้างงานได้หดตัวลง ซึ่งจะไปกดดันการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันนี้

ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบธนาคารในสัปดาห์นี้รวม 3.2 แสนล้านหยวน อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้มีธุรกรรม Reverse Repos หมดอายุจำนวน 1.16 ล้านล้านหนวน ดังนั้นจึงส่งผลให้ในสัปดาห์นี้ธนาคารกลางจีนดึงเงินออกจากระบบการเงินรวม 8.4 แสนล้านหยวน

อย่างไรก็ตามในวันอังคารที่ผ่านมาธนาคารกลางจีนได้ลดอัตราส่วนกันสำรอง RRR ของธนาคารพาณิชย์ลง 0.5% โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะช่วยเพิ่มเงินในระบบเศรษฐกิจได้ 7 แสนล้านหยวน

นาย ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ ระบุว่า บีโอเจยังไม่มีแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไปอีก หลังจากที่ได้ประกาศใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบไปเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ประโยชน์จากการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ จะส่งผ่านไปยังภาคเศรษฐกิจและช่วยกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยจะคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายคุโรดะ คาดการณ์ว่าการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบจะสามารถช่วยให้ญี่ปุ่นบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ได้ภายในครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2017 (ปีงบประมาณของญี่ปุ่นจะเริ่มต้นในวันที่ 1 เม.ย.)

นาย วูลฟ์กัง ชอยเบิล รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเยอรมนี กล่าวว่า เขาอาจจะร้องไห้หากอังกฤษเลือกที่จะโหวตออกจากสหภาพยุโรปในการลงประชามติ 23 มิถุนายนนี้

ทั้งนี้ เขาเรียกร้องให้อังกฤษ ยังคงอยู่ในยุโรปต่อไป เนื่องจากการตัดสินใจออกจากยุโรปอาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และอาจส่งผลให้ภูมิภาคไร้เสถียรภาพมากขึ้นหากอังกฤษก้าวออกไป จึงเป็นเรื่องที่ดีกว่าหากอังกฤษตัดสินใจเลือกที่จะดำรงอยู่ในยุโรปต่อ




ธนาคารขนาดใหญ่ในยุโรปอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากในการประกอบกิจการอีกทั้งยังมีความเสี่ยงสูงกว่าธนาคารสหรัฐฯ โดยรายงานจาก Bloomberg ระบุว่า ธนาคารใหญ่ที่สุดในยุโรป 12 แห่ง สามารถสร้างรายได้ได้ 0.18 เหรียญ ทุกๆสินทรัพย์ที่มี 100 เหรียญ ในปี 2015 ขณะที่ธนาคารใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ 6 แห่ง สามารถทำได้ 0.92 เหรียญ ในทุกๆสินทรัพย์ที่มี 100 เหรียญ โดยธนาคารใหญ่ในยุโรป ได้แก่ Credit Suisse, Deutsche Bank และ Royal Bank of Scotland (RBS) ต่างขาดทุนมากกว่า 1 พันล้านเหรียญ ในปีที่ผ่านมา โดย RBS นั้นขาดทุนทุกปีนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008

นอกจากนี้อัตราส่วนทุนต่อสินทรัพย์ ซึ่งแสดงถึงความเสี่ยงของธนาคาร พบว่าอัตราส่วนดังกล่าวของธนาคารใหญ่ในยุโรปอยู่ที่ 4.5% ขณะที่ของสหรัฐฯอยู่ที่ 6.6% แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงของธนาคารยุโรปที่สูงกว่าสหรัฐฯ

ในปีนี้หุ้นของธนาคารในยุโรปนั้นปรับตัวลดลงมากว่า 18% ขณะที่ดัชนีของหุ้นขนาดใหญ่ในยุโรป Stoxx Europe 600 index ปรับตัวลดลงน้อยกว่ามากเพียง 7.4%

ราคาน้ำมันดิบทรงตัวในวันนี้ โดยราคาน้ำมันดิบ WTI สัญญาเดือน เม.ย. ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% สู่ระดับ 34.67 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent สัญญาเดือน พ.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 0.05% สู่ระดับ 37.09 เหรียญ/บาร์เรล

นักวิเคราะห์จาก Sydney's OptionsXpress ระบุว่า นักลงทุนในตลาดกำลังรอคอยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในวันนี้ โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรนั้นเป็นปัจจัยชี้นำที่ดีที่สุดต่อการบริโภคน้ำมันของผู้บริโภค และนักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นบ้างว่าราคาน้ำมันได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว

รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า โฆษกรัฐสภาจีน เผยจะมีการเพิ่มงบประมาณทางการทหารของจีนในปีนี้ประมาณ 7-8% เมื่อเทียบกับปี 2015 ซึ่งในปีที่ผ่านมานั้น มีค่าใช้จ่ายทางทหารเพิ่มขึ้น 10.1% ที่ระดับ 8.869 แสนล้านหยวน หรือ 1.3539 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ

นาย คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่า เกาหลีเหนือพร้อมยิงหัวรบนิวเคลียร์ตลอดเวลา เนื่องจากสหรัฐฯได้ใช้กำลังทหารในทางที่ผิดและกดดันให้ประเทศอื่นๆก่อสงคราม ดังนั้นเกาหลีเหนือจึงมีสิทธิในการพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์เพื่อปกป้องประเทศ

ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ระบุว่า ทางการสหรัฐฯได้ทราบถึงรายงานดังกล่าวและกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเราขอให้เกาหลีเหนือหยุดการกระทำยั่วยุใดๆที่สร้างความตึงเครียด แทนที่จะทำตามข้อตกลงระหว่างประเทศ

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com