ทองคำปรับตัวขึ้นและทำจุดสูงสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาบริเวณราว 1,280 เหรียญ โดยในช่วงต้นได้รับแรงสนับสนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์และการปรับตัวลงของตลาดหุ้นหลงจากที่ข้อมูลการค้าจีนจุดประกายความกังวลต่อภาวะอุปสงค์ทั่วโลก
นักลงทุนส่วนใหญ่ทำการเทขายทำกำไรในทองคำหลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 13 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่่่านมา ซึ่งแนวรับสำคัญที่แข็งแกร่งของทองคำจะอยู่บริเวณ 1,230 เหรียญ
เฟดมีกำหนดการประชุมในวันที่ 15-16 มีนาคมนี้ ซึ่งหากเฟดยังคงไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจส่งผลให้ทองคำทดสอบ 1,300 เหรียญได้
ตลาดทองคำจับตาไปยังการปรับทบทวนการประชุมอีซีบีในวันพรุ่งนี้ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ คาดว่า อีซีบีจะทำการตัดลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอย่างน้อย 10 basis points และอาจจะขยายโปรแกรมการเข้าซื้อพันธบัตรในการประชุมวันพรุ่งนี้ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงตามค่าเงินยูโรจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าอีซีบีน่าจะทำการผ่อนคลายนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Forex.com ซึ่งระบุว่า การฟื้นตัวของทองคำเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเนื่องจากนักลงทุนระยะสั้นยังคงเก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น
นักวิเคราะห์จาก Wing Fung Financial Group เชื่อว่า ระยะกลางยังคงมีแนวโน้มสดใสเนื่องจากไม่คิดว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจจะอยู่ในทิศทางเชิงบวก
ทองคำอาจขึ้นทดสอบ 1,300 เหรียญ หรือแม้แต่ 1,400 เหรียญได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่ง Wing Fung Financial Group เชื่อว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เพียงหนึ่งครั้ง โดยมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Evercore ISI คาดการณ์ว่า ราคาทองคำสามารถปรับตัวสูบขึ้นได้ต่อ โดยสามารถปรับตัวขึ้นสูงกว่าระดับเส้นค่าเฉลี่ย 150 สัปดาห์ หลังจากที่อยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2013 โดยในระยะสั้นคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,400 เหรียญ และหากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้จริง จะกดดันตลาดหุ้นต่อไป เนื่องจากราคาทองคำและดัชนีราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม
อย่างไรก็ดีไม่ใช่นักวิเคราะห์ทุกรายที่คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น โดย Goldman Sachs ระบุว่า ในระยะสั้นทองคำมีเป้าหมายทดสอบ 1,100 เหรียญ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น