ในช่วงแรกทองคำปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,237.06 เหรียญ เช่นเดียวกับการร่วงลงของค่าเงินยูโร หลังอีซีบีประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยและขยายวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ก่อนที่ทองคำรีบาวน์กลับขึ้นได้มากกว่า 1% และขึ้นไปทำจุดสูงสุดเมื่อวานนี้บริเวณ 1,270 เหรียญ ตามการดีดกลับของค่าเงินยูโรจากระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ หลังจากประธานอีซีบีไม่มีแนวโน้มจะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อในอนาคต ขณะที่เช้านี้ยังคงปรับขึ้นต่อในตลาดเอเชียไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,282.75 เหรียญโดยประมาณ
กองทุนทองคำ SPDR กลับมาเป็นผู้ซื้อทองคำอีกครั้ง โดยเมื่อวานเข้าซื้ออีก 5.95 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 798.77 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กรกฎาคมปี 2014 ขณะที่ภาพรวมในเดือนนี้มีการเข้าซื้อสุทธิ 21.50 ตัน และภาพรวมตลอดปีมีการเข้าซื้อสุทธิ 156.4 ตัน
อย่างไรก็ดี กลุ่มนักลงทุนบางส่วนให้ความสำคัญและเฝ้ารอข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีก
เหล่าเทรดเดอร์บางส่วน กล่าวว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นถือเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำ ขณะเดียวกันก็ต้องจับตาสิ่งที่เฟดกำลังจะดำเนินการในการประชุมสัปดาห์หน้า
นักวิเคราะห์จาก RJO ระบุว่า จากการเปิดและปิดของตลาดทองคำและเมื่อวานนี้ดูเหมือนว่าทองคำจะกลับมาเป็นขาขึ้น แม้จะมีสัญญาณที่แข็งแกร่งทางเทคนิคเพียงเล็กน้อยในระยะสั้น อย่างไรก็ดี ตลาดจับตาว่าทองคำจะกลับขึ้นไปบริเวณ 1,300 เหรียญได้หรือไม่ เนื่องจากความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดช่วยดันให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น ณ ขณะนี้
นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ทองคำกลับขึ้นมาแถวระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือนอีกครั้งจากความต้องการในฐานะ Safe-Heaven แรงเทขายในตลาดหุ้นและการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์จากการประชุมของอีซีบีเมื่อวานนี้ จึงทำให้ภาพทางเทคนิคระยะสั้นของทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ภาพหลักระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้น ซึ่งหากทองคำปรับตัวขึ้นเหนือแนวต้าน 1,290 เหรียญ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,300 เหรียญ ขณะที่แนวรับในวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 1,260 เหรียญ