หุ้นตลาดเกิดใหม่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากเฟดคาดการณ์ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้น้อยลงจากเดิม 4 ครั้ง เหลือ 2 ครั้ง ทำให้มุมมองของนักลงทุนต่อกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเปลี่ยนแปลงไป
ดัชนี MSCI’s Emerging Markets Index ปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากทำจุดต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009 เมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวสูงขึ้นและกำลังจะให้ผลตอบแทนรายเดือนสูงที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี เนื่องจากราคาน้ำมันดิบ Brent สามารถทรงตัวเหนือระดับ 40 เหรียญ/บาร์เรล ได้ 3 วันทำการ
โดยในวันนี้ดัชนี MSCI’s Emerging Markets Index ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 822.70 จุด ปรับตัวสูงขึ้นมาเกือบ 4%นับตั้งแต่ทราบผลการประชุมเฟดเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา และปรับตัวสูงขึ้นแล้วกว่า 19.49% นับตั้งแต่จุดต่ำสุดบริเวณ 688.52 จุด เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา
โดยความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกของเฟด เปรียบเสมือนปัจจัยกระตุ้นครั้งใหญ่สำหรับสินทรัพย์ของประเทศกำลังพัฒนา หลังจากที่ทำจุดต่ำสุดในรอบหลายปี เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่หดตัวลงและมุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลก
Macquarie Bank Ltd. ได้ปรับเปลี่ยนมุมมองต่อค่าเงินดอลลาร์จาก “แข็งค่า” สู่ “อ่อนค่า” ในระยะสั้น หลังจากทราบผลการประชุมเฟดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยน จาก Commonwealth Bank ระบุว่า ผลการประชุมของเฟดเป็นการปลดปล่อยตลาดเกิดใหม่ครั้งใหญ่ และคาดว่าการปรับตัวสูงขึ้นในครั้งนี้จะยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างน้อย 3 เดือน เนื่องจากมูลค่ายังคงน่าสนใจ
ที่มา: Bloomberg, MSCI