MTS Help Center

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด +0.69% ที่ระดับ 17,602.3 จุด โดยยังคงขานรับกับการคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิด +0.3% ที่ระดับ 341.71 จุด จากความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนที่เชื่อว่า การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางต่างๆ จะส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจโลก

ในวันนี้ตลาดหุ้นและตลาดการเงินของญี่ปุ่น ปิดทำการในวันวสันตวิษุวัต (Vernal Equinox) ซึ่งเป็นวันที่กลางวันเท่ากับกลางคืน ซึ่งตลาดญีปุ่นจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันพรุ่งนี้

นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.75 – 35.00 บาท/ดอลลาร์ โดยในช่วงเย็นวันศุกร์เงินบาทกลับมาอ่อนค่าจากแรงซื้อดอลลาร์ที่กลับเข้ามา แต่ก็ยังมีเงินทุนไหลออกที่เป็นปัจจัยกดดันต่อค่าเงินบาท

สถาบันการเงินชั้นนำส่วนใหญ่ ประเมินว่า การประชุม กนง.ในวันที่ 23 มีนาคมนี้ จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% เพื่อรอประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆอีกระยะหนึ่ง ซึ่งมีเหตุผลสนับสนุนหลัก 2 ประการคือ 1) มาตรการการดูแลเศรษฐกิจของภาครัฐในปัจจุบันน่าจะเพียงพ่อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า หากไม่มีเหตุการณ์ใหม่ๆเข้ามากระทบ 2) การดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มเติมในช่วงที่ตลาดเงินและตลาดทุนยังมีความผันผวนสูง อาจลดทอนประสิทธิภาพการส่งผ่านผลนโยบายดังกล่าวสู่ภาคเศรษฐกิจ

นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทย วิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้จับตาการประชุม กนง. วันที่ 23 มีนาคมนี้ และจะแถลงข่าวรายงานนโยบายการเงินในช่วงสิ้นเดือน (31 มี.ค.) และจับตาไปยังการที่ JAS จะนำเงินมาชำระค่าประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHZ งวดแรกพร้อมหนังสือประกันจากสถาบันการเงินได้หรือไม่ รวมทั้งแรงเก็งกำไรจากการผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สีชมพู และโครงการประชารัฐฯที่ผลักดันเข้าสู่ ครม. ในต้นสัปดาห์นี้ ขณะที่ปัจจัยภายนอก ได้แก่ การปรับทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของยูโรโซนจาก S&P และ Moody’s ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯสัปดาห์นี้ ได้แก่ ภาคอสังหาริมทรัพย์ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนี PMI รวมทั้งจีดีพีขั้นสุดท้ายประจำไตรมาสที่ 4

เจ้าหน้าที่อาวุโสของ TMB Analytics ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยยังมีแรงส่งจากเครื่องยนต์ด้านต่างๆที่ทำงานสอดคล้องกันมากขึ้น แต่ยังไม่กลับสู่ระดับปกติที่จะสามารถรองรับกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จึงส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2559 มีแนวโน้มทรงตัวที่ระดับ 2.8% ท่ามกลางการฟื้นตัวที่แตกต่างกันทั่วโลก และการดำเนินนโยบายการเงินที่สวนทางกัน