ตัวเลขเศรษฐกิจที่แย่ลงเมื่อวานนี้ ทำให้ นักเศรษฐศาสตร์ลดคาดการณ์จีดีพีในไตรมาส 1/2016 ลง จากเดิม 1.4% สู่ระดับ 0.9%
สำนักข่าว CNBC ระบุว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อคืนนี้ ออกมาแย่ลงทั้งการใช้จ่ายผู้บริโภค, ดุลการค้าที่ขาดดุลมากขึ้น และการปรับปรุงข้อมูลการบริโภคเดือน ม.ค. ที่แย่ลง ได้ส่งผลให้การคาดการณ์จีดีพีสหรัฐฯในไตรมาสที่ 1/2016 ของนักเศรษฐศาสตร์ลดลงมากจากเดิม 1.4% สู่ระดับ 0.9%
นักวิเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ว่าในวันนี้ ประธานเฟดจะเน้นย้ำถึงสิ่งที่เคยกล่าวเอาไว้ โดยระบุถึงความเป็นไปได้ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และอัตราค่าจ้างที่ไม่เติบโตมากนัก
ถ้อยแถลงประธานเฟดในวันนี้ นักวิเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ว่านางเยลเลน จะกล่าวย้ำคำพูดที่เคยกล่าวไว้ในการแถลงข่าวในวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่าการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน เม.ย. นั้น “มีความเป็นไปได้”
CEO ประจำ DS Economics คาดการณ์ว่า ประธานเฟดอาจกล่าวถึงความกังวลต่อตลาดแรงงานในเรื่องอัตราค่าจ้างที่ไม่เติบโตมากนักตามที่นางเยลเลนเคยกล่าวไว้ ทั้งนี้ความอ่อนแอดังกล่าวเห็นได้ชัดว่าส่งผลให้การบริโภคชะลอตัวลง
ภาคการบริโภคคิดเป็นเกือบ 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
หัวหน้าเศรษฐศาสตร์จาก Moody's Analytics ระบุว่า กุญแจสำคัญของถ้อยแถลงประธานเฟด คือ เมื่อไหร่ที่นางเยลเลน เริ่มกล่าวว่า “อะไรจะเกิดขึ้น หากเฟดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย” โดยถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สัญญาณว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน เม.ย. แต่ก็เป็นสัญญาณว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้
นักเศรษฐศาสตร์จาก Deutsche Bank ระบุว่าเฟดมีปัญหาเรื่องความโปร่งใส
ในวันนี้นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด มีกำหนดการขึ้นแถลง ณ Economic Club of New York เวลา 23.20น. ตามเวลาประเทศไทย ทั้งนี้ก่อนหน้านี้สมาชิกเฟดหลายคนได้ทำให้ตลาดการเงินประหลาดใจโดยระบุว่า อาจขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
ปัญหาคือ สรุปการประชุมประจำวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมานั้นได้แสดงถึงมุมมองว่าอาจชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปก่อน ซึ่งขัดแย้งกับถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดเร็วๆนี้
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำสหรัฐฯของ Deutsche Bank ระบุว่า เฟดมีปัญหาเรื่องความโปร่งใส ตลาดคิดในสิ่งที่เฟดพูด นี่คือสิ่งที่เฟดรู้ดี แต่ปัญหาเรื่องความโปร่งใสนี้ทำให้ตลาดขาดความมั่นใจว่าเฟดจะทำอะไรต่อกันแน่
หัวหน้าเศรษฐศาสตร์ประจำ Moody's Analytics ระบุว่า ดูเหมือนว่าสมาชิก FOMC จะให้ความเห็นต่างจากสรุปการประชุมและพูดตามความเห็นของตัวเองมากขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะต้องการให้ตรงกับสภาพความเป็นจริงของตลาด ณ ปัจจุบันมากขึ้น
นักเศรษฐศาสตร์จาก Wells Fargo คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯมีโอกาสเกิดภาวะถดถอย 25% ในอีก 6 เดือนข้างหน้า
นักเศรษฐศาสตร์จาก Wells Fargo คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯมีโอกาสเกิดภาวะถดถอย 25% ในอีก 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากความผันผวนของตลาดและการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ Wells Fargo ใช้โมเดล Phobit ในการคาดการณ์ โดยใช้ตัวแปรได้แก่ 1.ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ(Leading Economic Index:LEI), 2.ดัชนี S&P500 และ 3.Chicago-PMI
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงในวันนี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 1.04% สู่ระดับ 38.98 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวลดลง 1.37% สู่ระดับ 40.31 เหรียญ/บาร์เรล
นักวิเคราะห์จาก Reuters ระบุว่าเกิดจากความกังวลว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นมากกำลังจะหมดไป ประกอบกับการที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาในวันนี้จะเพิ่มสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์
ทั้งนี้จากการสำรวจของ Reuters นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯโดย API จะเปิดเผยในคืนวันนี้ ขณะที่ของ EIA จะเปิดเผยในคืนวันพรุ่งนี้