นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยได้น้อยลงหลังถ้อยแถลงของประธานเฟด
หลังถ้อยแถลงของประธานเฟดที่ ระบุว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือน เม.ย. ลดลงสู่ระดับ 4.6% จากเดิม 11.5% ในวันก่อนหน้า
และนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ ลดลงสู่ระดับ 65% จากเดิม 75.3% ในวันก่อนหน้า
ค่าเงินหยวน, เยน, ยูโร และบาท ต่างแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบสัปดาห์ หลังถ้อยแถลงของประธานเฟด
ค่าเงินหยวนและเยนแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบสัปดาห์ในวันนี้ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจากถ้อยแถลงเชิงผ่อนคลายของประธานเฟดที่ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
โดยธนาคารกลางจีนประกาศค่ากลางอัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 5 วัน ที่ระดับ 6.4841 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าค่ากลางของวันก่อนหน้า 0.34% และค่าเงินหยวนในตลาด Onshore ที่เซี่ยงไฮ้ แข็งค่าขึ้น 0.33% สู่ระดับ 6.4846 หยวน/ดอลลาร์ แข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ 22 มี.ค.
ที่มา : MTS SMART TECHNIC
ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 1.05% จากระดับ 113.336 เยน/ดอลลาร์ สู่ระดับ 112.143 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งนับว่ามากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.
ที่มา : MTS SMART TECHNIC
ขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นกว่า 1.18% จากระดับ 1.1198 ดอลลาร์/ยูโร สู่ระดับ 1.1330 ดอลลาร์/ยูโร แข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา
ที่มา : MTS SMART TECHNIC
รวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่า 0.57% จากระดับ 35.375 บาท/ดอลลาร์ สู่ระดับ 35.172 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.
ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าและสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.91% สู่ระดับ 39.02 เหรียญ/บาร์เรลในวันนี้ ขณะที่น้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.58% สู่ระดับ 40.47 เหรียญ/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ และแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯโดย API ปรับตัวสูงขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 534.4 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 3.3 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ในคืนนี้จะมีสต็อกน้ำมันสหรัฐฯโดย EIA ซึ่งตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล