ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -0.18% ที่ระดับ 17,685.09 จุด หลังจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ขยายตัวขึ้นเกินคาด ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ระมัดระวังการซื้อขายก่อนทราบข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯในค่ำคืนนี้
ตลาดหุ้นยุโรปปิด -1.1% ที่ระดับ 337.54 จุด เพราะได้รับแรงกดดันจากการเทขายหุ้นกลุ่มส่งออกของกลุ่มนักลงทุน หลังจากที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ส่งสัญญาณเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่า 2% ที่อีซีบีกำหนด
เช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิด -1.33% ที่ระดับ 16,535.98 จุด และยังคงปรับตัวลดลงต่อเกือบ 400 จุดในช่วงเวลาประมาณ 08.00น. หลังบีโอเจ เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (Tankan) ในไตรมาสที่ 1/2016 โดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ออกมาต่ำกว่าคาดที่ระดับ +6 จากการแข็งค่าของค่าเงินเยนและการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00 – 35.25 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแข็งค่าตามภูมิภาค หลังเงินดอลลาร์อ่อนค่าตอบรับถ้อยแถลงของประธานเฟดที่มีท่าทีระมดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ในวันนี้คาดจะแกว่งตัวในกรอบดังกล่าว รอคอยข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้
ธปท. เผย เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.พ.59 ทรงตัวจากเดือนก่อน โดยภาคการท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่อง และการใช้จ่ายภาครัฐยังคงขยายตัวดี แม้รายจ่ายลงทุนแผ่วลงบ้างเมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่มีการเร่งเบิกจ่ายสูง ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนในภาพรวมทรงตัว ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าที่หักหมวดทองคำหดตัวจากภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าหลักทั้งจีนและอาเซียนที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ประกอบกับราคาสินค้าส่งออกยังหดตัวตามราคาน้ำมัน ส่งผลให้การผลิตและการลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในระดับต่ำ
ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ในเดือน ก.พ.59 ดัชนีฯ ปรับลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ระดับ 48.5 มาอยู่ที่ระดับ 48.2 ตามความกังวลต่ออุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอลง ประกอบกับภาวะภัยแล้งส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบปรับสูงขึ้น
เลขานุการ กนง. แถลงรายงานนโยบายการเงินฉบับเดือนมีนาคม 2559 ว่า กนง.ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจตลอดช่วงประมาณการ ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวราว 3.1% ซึ่งลดลงจากประมาณการในครั้งก่อนที่ระดับ 3.3% นอกจากนี้ กนง.ปรับลดประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปี 59 ลงจากประมาณการครั้งก่อน แต่ยังปรับเข้าใกล้เป้าหมายในปี 60 ตามแนวโน้มราคาน้ำมันที่ทยอยเพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจไทยที่ค่อยๆ ขยายตัวดีขึ้น โดยประเมินให้ความเสี่ยงต่อประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั้งสองยังโน้มไปด้านต่ำตามแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่อาจน้อยกว่าคาดตามเศรษฐกิจที่อาจขยายตัวต่ำกว่ากรณีฐาน