ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -0.98% ที่ระดับ 17,541.96 จุด จากการทรุดตัวของราคาน้ำมันดิบ และความกังวลของกลุ่มนักลงทุนทั่วโลกที่ว่ามาตรการการเงินของธนาคารกลางต่างๆอาจไม่เพียงพอที่จะหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่รายงานประชุมเฟดเดือนมีนาคมยังคงวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะจำกัดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน จึงทำให้เฟดอาจไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ก่อนเดือนมิถุนายน
ตลาดหุ้นยุโรปปิด -0.8% ที่ระดับ 328.1 จุด จากความวิตกกังวลของกลุ่มนักลงทุน หลังรายงานการประชุมอีซีบี ยังบ่งชี้ให้เห็นถึงความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อระดับต่ำ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
นักบริหารเงินประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.10 – 35.30 บาท/ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อวานขึ้นทดสอบHigh บริเวณ 35.24 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้เคลื่อนไหวที่ระดับ 35.19 บาท/ดอลลาร์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เตรียมทบทวนคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2559 ในเดือน มิ.ย.นี้ โดย GDP มีแนวโน้มปรับลดลงจากเดิมที่คาดไว้ในระดับ 3% และมูลค่าการส่งออกจากเดิม 0% เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากที่เคยประมาณการไว้ โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ และปัญหาภัยแล้ง
ธนาคารออมสิน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยลดอัตราดอกเบี้ย MRR : Minimum Retail Rate ดอกเบี้ยที่เงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี ลงอีก 0.35% ต่อปี จากเดิม 7.475% ต่อปี เป็นอัตรา 7.125% ต่อปี และลดอัตราดอกเบี้ย MLR : Minimum Lending Rate ซึ่งเป็นดอกเบี้ยที่เงินกู้ขั้นต่ำประเภทเงินกู้ที่มีระยะเวลา ลงอีก 0.2% ต่อปี จากเดิมอัตรา 6.700% ต่อปี เป็นอัตรา6.500% ต่อปี ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2559 เป็นต้นไป
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME Bank ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.125-0.625% เพื่อช่วยเหลือลูกค้าซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายย่อยประมาณ 70,000 กว่าราย จะทำให้ลูกค้ามีต้นทุนทำธุรกิจที่ต่ำลง สามารถมีสภาพคล่องใช้หมุนเวียนในกิจการ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศได้ด้วย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2559