นักวิเคราะห์จาก Mauldin Economics ระบุว่า เฟดอาจไม่สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ เนื่องจากภาระหนี้สินของทั้งเฟดและรัฐบาลสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ประจำ Mauldin Economics ระบุว่า เฟดอาจไม่สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ เนื่องจาก เฟดมีหนี้อยู่จำนวนมาก เกือบ 19 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งหากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้เฟดมีภาระดอกเบี้ยมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้นอกจากเฟดที่จะมีภาระเพิ่มขึ้นแล้ว รัฐบาลสหรัฐฯเองก็เช่นกัน โดยในปี 2017 สหรัฐฯจะมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยราว 3 แสนล้านเหรียญ ซึ่งการใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำและมาตรการ QE จะช่วยลดภาระหนี้ไม่ให้ปะทุขึ้นมาได้
นักวิเคราะห์จาก Citigroup ระบุว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาจผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว
นักวิเคราะห์จาก Citigroup ระบุว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาจผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจากมุมมองที่ดีขึ้นต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ของจีน, การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ และ สัญญาณของอุปทานที่เริ่มตึงตัว
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในปีนี้ ปรับตัวลดลงจากความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นประเทศที่บริโภคสินค้าโภคภัณฑ์มากที่สุดในโลก ซึ่งกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทุกอย่างตั้งแต่ น้ำมัน แร่เหล็ก และทองแดง เป็นต้น อย่างไรก็ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้ปรับตัวสูงขึ้นหลังจีนมีสัญญาณที่ดึขึ้น โดยดัชนี Bloomberg Commodity Index ปรับตัวสูงขึ้น 9% นับจากเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นในวันนี้ ใกล้ระดับที่แข็งค่าที่สุดในรอบ 18 เดือน
ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นในวันนี้ หลังจากที่เหล่าผู้ผลิตน้ำมันดิบล้มเหลวในการจำกัดการผลิตน้ำมันดิบ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ ค่าเงินเยน
ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.69% สู่ระดับ 107.98 เยน/ดอลลาร์ ในวันนี้ ใกล้กับจุดที่แข็งค่าที่สุดในรอบ 18 เดือน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 107.63 เยน/ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดิบหดตัวลงเนื่องจากความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 4.77% สู่ระดับ 39.73 เหรียญ/บาร์เรลในวันนี้ ขณะที่น้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวลดลง 4.27% สู่ระดับ 41.26 เหรียญ/บาร์เรล
ราคาน้ำมันร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ หลังการประชุมผู้ผลิตน้ำมันดิบไม่สามารถบรรลุข้อตกลงควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมันดิบได้
นักวิเคราะห์จาก BMI Research กล่าวไว้ว่า “ในขณะนี้ความเชื่อมั่นต่อกลุ่ม OPEC ว่าจะสามารถจำกัดการผลิตน้ำมันดิบได้นั้นอยู่ในระดับที่ต่ำมาก”
นักวิเคราะห์จาก HSBC ระบุว่า ในระยะสั้น การตกต่ำลงของราคาน้ำมันจะกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทำให้ความผันผวนในตลาดการเงินสูงขึ้น