ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด +0.12% ที่ระดับ 18,003.75 จุด เพราะได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงมีปัจจัยกดดันจากผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงบริษัทไมโครซอฟท์ และแคทเทอร์พิลลา
ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิด -0.3% ที่ระดับ 348.46 จุด จากแรงเทขายในหุ้นกลุ่มรถยนต์ และความกังวลเกี่ยวกับข่าวการใช้ซอฟท์แวร์โกงทดสอบค่าไอเสียของบริษัทผลิตรถยนต์บางแห่ง ขณะที่ข่าวผู้ผลิตรถยนต์ 5 รายของเยอรมนีจะทำการเรียกคืนรถยนต์ดีเซลจำนวน 630,000 คันในยุโรป เพื่อแก้ปัญหาระบบซอฟท์แวร์จัดการไอเสีย
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียและค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลง จากกลุ่มนักลงทุนที่เฝ้ารอคอยผลการประชุมเฟดและบีโอเจในสัปดาห์นี้ โดยมีกระแสคาดการณ์ว่าทั้งสองธนาคารขนาดใหญ่น่าจะส่งสัญญาณต่อการดำเนินนโยบายในอนาคต ขณะที่ดัชนีนิกเกอิได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินเยน จึงปรับตัวลงมาประมาณ 0.5%
นักบริหารเงิน ประเมินว่า ในสัปดาห์นี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90 – 35.20 บาท/ดอลลาร์ โดยจับตาผลการประชุมของเฟดระหว่าง 26-27 เมษายนนี้ ขณะที่บีโอเจจัดประชุม 27-28 เมษายนนี้ รวมไปถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันได้แก่ ภาคการผลิต PMI, ข้อมูลภาคที่อยู่อาศัย การใช้จ่าย ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน และจีดีพีไตรมาสแรกของสหรัฐฯ
DTAC คงเป้ารายได้ปี 2559 ทรงตัวหรือเพิ่มเล็กน้อยจากปี 2558 แม้งวดไตรมาสที่ 1/2559 จะหดตัวและมีกำไรลดลง 45% ที่ระดับ 1.26 พันล้านบาท
นอกจากนี้ DTAC ยังเผยว่า ปัจจุบัน DTAC มีชุดคลื่นความถี่ทั้งหมดจำนวน 50 MHz ที่ถือครองมากพอสำหรับการให้บริการดิจิทัลสำหรับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น DTAC จึงจะไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 900 MHz ในครั้งนี้
ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เหลือ 7.62%นอกจากนี้ยังปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ลง 0.25% เหลือ 7.12%โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2559 เป็นต้นไป การปรับลดลงครั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการและลูกค้ารายย่อย
อย่างไรก็ดี SCB ประกาศผลกำไรสุทธิประจำไตรมาส 1/2559 (งบการเงินรวมก่อนสอบทาน) มีผลกำไรสุทธิจำนวน 10,546 ล้านบาทลดลง 19.8% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของไตรมาส 1/2558