ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่เฝ้าจับตาประชุมเฟดอย่างใกล้ชิด โดยเช้านี้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลงมาที่ระดับ 94.42 ขณะที่ค่าเงินยูโรเช้านี้แข็งค่ามาบริเวณ 1.1303 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.1268 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินเยนเช้านี้ทรงตัวรอรับประชุมบีโอเจที่ระดับ 111.17 เยน/ดอลลาร์
เมื่อวานนี้ ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน หลังจากมีรายงานว่า กองทุน 1MDB ของมาเลเซียออกแถลงการณ์ยอมรับเรื่องการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรวงเงิน 1.75 พันล้านดอลลาร์ ภายหลังจากที่กองทุนไม่สามารถจ่ายอัตราดอกเบี้ยมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ที่ครบกำหนดชำระเมื่อวานนี้
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เผย รายงานคำสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนมีนาคมที่ออกมาแย่กว่าที่คาด จากอุปสงค์ในกลุ่มรถยนต์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ชะลอตัวลง จึงฉุดให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ขณะที่ความเชื่อมั่นกลุ่มผู้บริโภคประจำเดือนเมษายนอ่อนตัวลงจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯระยะสั้นที่ไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่นัก
ผลสำรวจนักวิเคราะห์จาก CNBC ส่วนใหญ่มีมุมมองว่าเฟดน่าจะไม่ทำการปรับขึ้นอัตราดอเบี้ยในการประชุมสัปดห์นี้ โดย 94% เชื่อว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจนกว่าจะถึงเดือนสิงหาคมนี้ โดยช้ากว่า 2 เดือนจากผลสำรวจก่อนหน้านี้
น้ำมันดิบ WTI ปิด +3.3% ที่ระดับ 44.04 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด +2.8% ที่ระดับ 45.74 เหรียญ/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในปีนี้ จึงช่วยหนุนความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของนักลงทุนและการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ แม้ว่านักวิเคราะห์บางส่วน กล่าวเตือนว่าการฟื้นตัวที่เกิดขึ้นในเดือนนี้อาจจบลง
ขณะที่รายงานจาก API เผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลงเกือบ 1.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะออกมาที่ระดับ 2.4 ล้านบาร์เรล
Citi Group ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นอีก 500,000 บาร์เรล/วัน เพื่อให้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11 ล้านบาร์เรล/วัน