สรุปผลการประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ พบว่าเฟดยังคงมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับ 0.25-0.50% แต่ยังคงเปิดกว้างสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้ และยังส่งสัญญาณไม่เร่งรีบคุมเข้มนโยบายการเงินท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว โดยจะเห็นได้ว่าแม้เงื่อนไขจากภาคตลาดแรงงานยังคงมีการฟื้นตัว แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจนั้นชะลอตัวลง
อย่างไรก็ดี ในที่ประชุมเมื่อวานนี้ มีเพียง นางเอสเตอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ ที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในช่วง 0.50 – 0.75%
ทั้งนี้ เฟดยังให้ความสำคัญกับการขยายตัวของภาคการจ้างงาน การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และข้อมูลเงินเฟ้อ หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อเริ่มแสดงให้เห็นถึงภาวะการขยายตัวจากระดับต่ำในปัจจุบัน สู่ระดับเป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้ 2% โดยเฟดจะเฝ้าจับตาเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด ขณะที่ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เฟดเฝ้าจับตา แม้ว่าความเสี่ยงจากประเด็นดังกล่าวจะปรับตัวลดลง
เหล่าเทรดเดอร์ยังคงมีมุมมองว่าการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปี 2016 น่าจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ และมองโอกาสว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม โดยอ้างอิงจากมุมมองของมติเฟดในการประชุมเดือนมีนาคมที่คาดว่าปีนี้จะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้จำนวน 2 ครั้ง
รายงาน Fed Watch ของ CME Group เผยว่า กลุ่มนักลงทุนมีมุมมองหลังเฟดสิ้นสุดการประชุมเมื่อคืนนี้ โดยมองว่ามีโอกาสเป็นไปได้ 23%ที่เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน โดยปรับขึ้นจาก 21% ในช่วงก่อนการประกาศตัดสินใจของเฟด
ผลการประกาศ ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) ของสหรัฐฯ ขยายตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนมีนาคม และปรับตัวขึ้นเกินคาดแตะระดับ 1.4% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 110.5 ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
รายงานจากรอยเตอร์ส รายงานว่า บีโอเจมีกำหนดแถลงผลการประชุมในวันนี้ โดยกลุ่มผู้กำหนดนโยบายของบีโอเจยังคงลังเลต่อการตัดสินใจดำเนินมาตรการเพิ่มเติม หลังจากที่ได้ตัดสินใจใช้อัตราดอกเบี้ยระดับติดลบในการประชุมเดือนมกราคมที่ผ่านมา
น้ำมันดิบ WTI ปิด +2.9% ที่ระดับ 45.33 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด +3.2% ที่ระดับ 47.18 เหรียญ/บาร์เรล จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์หลังจากถ้อยแถลงเฟดที่ส่งสัญญาณยังไม่เร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่รายงาน API ระบุว่า ปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา