MTS Help Center

ข้อมูลเศรษฐกิจช่วง 2 เดือนนี้ คือกุญแจสำคัญ ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ได้หรือไม่

นักเศรษฐศาสตร์จาก Wells Fargo ระบุว่า ประเด็นสำคัญในการประชุมเฟดเมื่อวานนี้คือเฟดได้ปรับเปลี่ยนมุมมองต่อเศรษฐกิจ โดยประโยคสำคัญในการประชุมครั้งก่อน “เศรษฐกิจและการเงินของโลก กำลังแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง” ได้ถูกตัดออกไป และถูกแทนที่ด้วยคำว่า “กำลังจับตามองเศรษฐกิจและการเงินของโลก” แทน

ขณะที่มุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯมีทั้งดีขึ้นและแย่ลง

- การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเติบโตในอัตราที่ช้าลง การลงทุนในสินทรัพย์คงทนของภาคธุรกิจและดุลการค้ายังคงอ่อนแอ

- ขณะที่ระบุถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรายได้ภาคครัวเรือนที่เติบโต ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเฟดหวังว่าการใช้จ่ายภาคครัวเรือนจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นและช่วยหนุน GDP ในไตรมาสที่ 2/2016 นี้ได้

ทั้งนี้ถึงแม้ว่าระดับอัตราเงินเฟ้อน่าจะยังไม่ถึงจุดที่ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ผลการประชุมเฟดที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ออกไป ดังนั้นข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเวลา 2 เดือนนี้คือกุญแจสำคัญว่าเฟดจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน มิ.ย. นี้หรือไม่

บีโอเจ ไม่ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

- บีโอเจ คงดอกเบี้ยไว้ที่ -0.1% ด้วยคะแนน 8-1 เสียง

- จะออกมาตรการเพิ่มหากจำเป็น

- ความเสี่ยงทิศทางขาลงของเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโดยภาพรวมยังคงมีอยู่สูง

- ระบุ CPI ของญี่ปุ่นจะอยู่ใกล้ระดับ 0% ไปอีกซักระยะ และจะค่อยๆเพิ่มสู่ระดับ 2%

- คาดการณ์ CPI (ยังไม่รวมผลกระทบจากการขึ้นภาษีขาย) จะถึงเป้าหมาย 2% ในปีงบประมาณ 2017

- คาดการณ์ Core CPI ปีงบประมาณ 2017 ไว้ที่ 1.7% และของปีงบประมาณ 2018 ไว้ที่ 1.8%

- บีโอเจจะผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีเสถียรภาพที่ระดับ 2%

ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างมากในวันนี้ เนื่องจากบีโอเจไม่ออกมาตรการอย่างที่ตลาดคาด

ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นมากกว่า 3% ในวันนี้สู่ระดับ 108.03 เยน/ดอลลาร์ จากระดับเดิมก่อนผลการประชุมบีโอเจที่ 111.67 เยน/ดอลลาร์ หลังจากบีโอเจสร้างความผิดหวังให้แก่ตลาดครั้งใหญ่ ด้วยการคงนโยบายการเงินไว้ตามเดิม

ราคาน้ำมันดิบทรงตัวในวันนี้

วันนี้ราคาน้ำมันดิบทรงตัวมาจากจุดสูงสุดของปีที่ทำไว้เมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนทำการเทขายทำกำไรของนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วน คาดการณ์ว่า บรรยากาศการลงทุนที่สดใสขึ้นบวกกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเป็นปัจจัยบวกในการหนุนราคาน้ำมันดิบต่อไปได้อีกซักพัก

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 0.07% ระดับ 45.30 เหรียญ/บาร์เรล