ราคาทองคำปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้และหากไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์ที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า อย่างไรก็ดี ในวันนี้ต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ซึ่งจะชี้ว่าเฟดจะเปลี่ยนแปลงแผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
โดยหากตัวเลขออกมาอย่างแข็งแกร่ง จะหนุนให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากขึ้นและกดดันราคาทองคำลง ทั้งนี้ในปีนี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมาแล้ว 21% เนื่องจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ช้าลง
ในสัปดาห์นี้ราคาทองคำร่วงลงมาแล้ว 1.2% มากที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ นับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 21 – 25 มี.ค.
นักวิเคราะห์จาก Argonaut Securities ระบุว่า หากตัวเลขภาคแรงงานในค่ำคืนนี้ออกมาแย่ ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ยังมีการเผยตัวเลขการจ้างงานอีกหนึ่งรอบ ก่อนจะถึงการประชุมเฟดประจำเดือน มิ.ย. ดังนั้น ภาพรวมราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นลงตามตัวเลขเศรษฐกิจที่เข้ามากระทบ ขณะที่ภาพในระยะสั้นถูกกดดันโดยค่าเงินและความเห็นที่หนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสมาชิกเฟด
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อวานนี้ หลังจากที่อ่อนค่าลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 15 เดือน เนื่องจากนักลงทุนในตลาดปิดสถานะทำกำไรออกมาก่อนจะเผยตัวเลขภาคแรงงานวันนี้
สำนักข่าว CNBC รายงานสถิติ เมื่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Employment Change) ปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลง 25,000 – 75,000 ตำแหน่ง จะส่งผลกับราคาสินทรัพย์ต่างๆอย่างไร โดยกำหนดเงื่อนไขคือเข้าซื้อก่อนประกาศตัวเลข 1 วัน และขายในวันที่ประกาศตัวเลข
เมื่อปรับตัวสูงขึ้น 25,000 – 75,000 ตำแหน่ง ราคาทองคำจะหดตัวลง 0.66% ขณะที่ค่าเงินเยน – อ่อนค่าลง0.45%, ค่าเงินสวิสฟรังก์ – อ่อนค่าลง 0.49%, ค่าเงินยูโร – อ่อนค่าลง 0.43%, ดัชนีดอลลาร์ – ปรับตัวสูงขึ้น 0.37
เมื่อปรับตัวลดลง 25,000 – 75,000 ตำแหน่ง ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น 1.07% ขณะที่ค่าเงินเยน – แข็งค่าขึ้น 0.25%, ค่าเงินสวิสฟรังก์ – แข็งค่าขึ้น 0.39%, ค่าเงินยูโร – แข็งค่าขึ้น 0.10%, ดัชนีดอลลาร์ – หดตัวลง0.13%
สมาคมทองคำจีน (CGA) เปิดเผยว่า ผลผลิตทองของจีนเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรก อันเนื่องจากราคาทองที่ปรับตัวขึ้นในตลาดโลก โดยจีนผลิตทอง 111.56 ตันในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 0.78% เมื่อเทียบรายปี
อย่างไรก็ดี จีนมีความต้องการทองคำ 318.28 ตันในไตรมาส 1/2016 ลดลง 3.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า