จีนอาจไม่ใช้นโยบายการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เนื่องจากหนี้สินที่อยู่ในระดับสูง
หนังสือพิมพ์ People’s Daily ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของทางการจีน ได้ออกบทความสัมภาษณ์ผู้นำของรัฐบาล โดยระบุว่า จีนกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และอาจลดการกระตุ้นเศรษฐกิจลง
เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุถึง ระดับหนี้ที่อยู่ในระดับสูงเกินไปจะสร้างความเสี่ยงและอาจก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินได้ และเพื่อแก้ปัญหาระดับหนี้ดังกล่าว จีนไม่ควรใช้นโยบายทางการเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ และคาดว่าต่อไปในช่วงหลายปีข้างหน้าจีนจะมีการเติบโตแบบ L-Shaped เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอและกำลังการผลิตส่วนเกิน
หนังสือพิมพ์ People’s Daily ระบุว่า ในขณะที่การเติบโตของจีนมีการลงทุนเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ประกอบกับปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจที่เรื้อรัง จะใช้เห็นว่าจีนอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการปฏิรูป ก่อนที่ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ๆจะมาแทนที่การลงทุนได้
ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาอาหาร
ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ของจีน ทรงตัวในเดือน เม.ย. (เดิม 2.3% คาดการณ์ 2.3% ผล 2.3%) ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย (เดิม -4.3% คาดการณ์ -3.8% ผล -3.4%) เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ช่วยให้ความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนลดลงไป
CPI ของจีนนั้นปรับตัวสูงขึ้นโดยส่วนใหญ่มาจากราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยดัชนีราคาที่ไม่ใช่อาหาร ปรับตัวสูงขึ้นเพียง 1.1%
ทั้งนี้จากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนในเดือน มี.ค. ได้ทำให้เกิดความหวังว่าเศรษฐกิจจีนอาจผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว หลังชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และธนาคารกลางจีนอาจชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงไป แต่จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผสมปนเปในเดือน เม.ย. และข้อมูลระดับหนี้ที่สูงขึ้น ได้จุดกระแสความกังวลกลับเข้ามาอีกครั้ง
ค่าเงินเยนกลับมาอ่อนค่าหลังรัฐมนตรีการคลังของญี่ปุ่น กล่าวย้ำว่า อาจแทรกแซงค่าเงินเยนหากผันผวนเกินไป
ในวันนี้ นาย Taro Aso รัฐมนตรีการคลังของญี่ปุ่น ตอกย้ำถึงการแทรกแซงค่าเงินเยนอีกครั้งหากค่าเงินเยนมีความผันผวนมากเกินไป หลังจากกล่าวไปแล้วเมื่อวานนี้
ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง 0.4% ในวันนี้ สู่ระดับ 108.795 เยน/ดอลลาร์ อ่อนที่สุดในรอบ 12 วัน อ่อนค่าต่อจากเมื่อวานนี้ที่อ่อนไปแล้วกว่า 1%
ทั้งนี้ค่าเงินเยนนั้นแข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 18 เดือน ที่ระดับ 105.55 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่บีโอเจไม่ออกมาตรการทางการเงินเพิ่มเติม ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
น้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและไฟไหม้ป่าในแคนาดา เคลื่อนตัวออกจากเขตพื้นที่ผลิตน้ำมันแล้ว
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าในแคนาดาได้เคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ผลิตน้ำมันของแคนาดาแล้ว รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันตลาดน้ำมันดิบ
นักวิเคราะห์จาก ANZ Bank ระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและการผลิตน้ำมันดิบของแคนาดาที่คลี่คลายลง ได้กดดันราคาน้ำมันดิบลง
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 35 เซนต์ สู่ระดับ 43.09 เหรียญ/บาร์เรล