ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันนี้ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ทั้งนี้ในคืนนี้ นักลงทุนในตลาดกำลังจับตามองไปยังข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ
วันนี้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้น 0.11% สู่ระดับ 93.90 จุด
นักวิเคราะห์จาก OCBC Bank คาดการณ์ว่า เฟดไม่น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือน มิ.ย. นี้ และน่าจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาสนี้ และส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 1,250 เหรียญ
นักวิเคราะห์จาก MKS Group คาดการณ์ว่าราคาทองคำมีแนวรับและแนวต้านที่ 1,260 – 1,280 เหรียญ
ความต้องการทองคำในไตรมาส 1/2016 ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2015 เนื่องจากความต้องการทองคำของกองทุน ETF เพิ่มสูงขึ้นมาก ขณะที่ความต้องการทองคำสำหรับเครื่องประดับปรับตัวลดลง
รายงานจาก World Gold Council ระบุ ความต้องการทองคำในไตรมาส 1/2016 เพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 1,289.8 ตัน จากระดับ 1,070.4 ตัน ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือเพิ่มสูงขึ้นกว่า 20.4%
ทั้งนี้ความต้องการทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากกองทุน ETF ที่ซื้อทองคำเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 363.4 ตัน จากเดิม 25.6 ตันในช่วงไตรมาส 1/2015
หัวหน้าฝ่าย Market Intelligence ประจำ World Gold Council ระบุว่า ปัจจัยหลักที่หนุนความต้องการทองคำในปีนี้มากจากการใช้ระดับอัตราดอกเบี้ยติดลบซึ่งทำให้ตลาดการเงินมีความผันผวนมากขึ้น โดยหน่วยลงทุนต่างๆเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มสูงขึ้น
ในทางกลับกัน ความต้องการทองคำในฐานะเครื่องประดับปรับตัวลดลงเนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่หดตัว จากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน และการหยุดงานประท้วง 42 วัน ของกลุ่มผู้ค้าเครื่องประดับในอินเดีย