ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกว่า 2.46% จากระดับอ่อนค่ามากที่สุดในเดือนพฤษภาคมนี้ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเกือบ 8% จากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นปี อย่างไรก็ดี ค่าเงินดอลลาร์ยังคงรอคอยการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายตัวของสหรัฐฯในค่ำคืนนี้ ทั้งยอดค้าปลีก, ดัชนีราคาผู้ผลิต และประมาณการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้น โดยเช้านี้ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ระดับ 94.15
ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมาในเช้านี้บริเวณ 1.1371 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.1429 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวที่ระดับ 108.89 เยน/ดอลลาร์ และค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าขึ้นทดสอบ 35.35 บาท/ดอลลาร์
ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อวานนี้ออกมาไม่ค่อยดีนัก นำโดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ออกมาแย่ลงเกินคาด โดยมีผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 14 เดือน แตะระดับ 294,000 ราย หรือเพิ่มขึ้นจากเดิม 20,000 ราย และถึงแม้ข้อมูลจะออกมาแย่ แต่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าจะไม่ส่งสัญญาณเชิงลบต่อภาพรวมการขยายตัวของภาคแรงงาน
อย่างไรก็ดี ข้อมูลคนว่างงานที่ประกาศล่าสุดเมื่อคืนนี้ ก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 61
ขณะที่ดัชนีราคานำเข้าของสหรัฐฯออกมาแย่ลงเกินคาดแตะระดับ 0.3% ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงทรงตัวเท่าระดับเดิมในเดือนก่อนหน้า
นาง เอสเตอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ ยังคงแสดงท่าทีหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า อัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ต่ำเกินไป สำหรับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจในทุกวันนี้ จึงอาจส่งผลกระทบและสร้างความเสี่ยงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯได้
ด้านนายอีริค โรเซ็นเกร็น ประธานเฟดาขาบอสตัน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ประเมินไว้ ขณะที่นางลอเร็ตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์ กล่าวว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่อาจขัดขวางให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆต่อนโยบายการเงินที่เฟดจะดำเนินการ
ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จากรอยเตอร์ส ระบุว่า มีเพียง 8% เชื่อว่าเฟดจะทำการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50 – 0.75% ในเดือนมิถุนายน ขณะที่ส่วนใหญ่กว่า 60% มีมุมมองว่า เฟดมีแนวโน้มจะรอคอยความชัดเจนของสัญญาณการฟื้นตัวของเงินเฟ้อจนกว่าจะถึงเดือนกันยายน ก่อนที่จะทำการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
น้ำมันดิบ WTI ปิด +1% ที่ระดับ 46.70 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด +1% เช่นกันที่ระดับ 48.08 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า IEA คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลงเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา