ทองคำปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายวันนี้ หลังจากที่ปรับตัวลงกว่า 1% ในวาระซื้อขายก่อนหน้า แต่ภาพรวมตลอดสัปดาห์ของทองคำก็ถือเป็นสัปดาห์ที่ปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ท่ามกลางการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์กดดันราคาทองคำ
ในรอบ 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเป็นจำนวน 4 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่
ทั้งนี้ค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงจากสมาชิกเฟดที่มีถ้อยแถลงหนุนการขึ้นดอกเบี้ยเมื่อคืนนี้ ได้แก่ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้, ประธานเฟดสาขาบอสตัส และ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์
BMO Capital Markets ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำและซิลเวอร์ โดยในช่วงสิ้นปีคาดว่าราคาทองคำในช่วงสิ้นปีจะอยู่แถวระดับ 1,400 เหรียญ/ออนซ์ ขณะที่ซิลเวอร์จะอยู่ที่ระดับประมาณ 21 เหรียญ/ออนซ์ พร้อมประเมินว่า ราคาเป้าหมายของหุ้นของกลุ่มบริษัทและเหมืองแร่ทองคำและซิลเวอร์ เฉลี่ยปีนี้จะสูงขึ้น 24%
อย่างไรก็ดี BMO Capital Markets ให้เหตุผลว่าราคาทองคำและซิลเวอร์ได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอยู่ในปีนี้ จึงขับเคลื่อนราคาทองคำในฐานะ Safe-Heaven ขณะเดียวกันปัจจัยที่ต้องจับตาคือความเป็นไปได้ที่เฟดอาจทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมนี้ รวมทั้งคำถามที่เกิดขึ้นว่าเมื่อไรที่เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงสิ้นปีนี้
นักวิเคราะห์จาก Wing Fung Precious Metals กล่าวว่า ขณะนี้ค่าเงินดอลลาร์ถือเป็นปัจัจยพื้นฐษนสำหรับราคาทองคำ และเชื่อว่าตลาดยังคงตอบรับผสมผสานไปกับกระแสข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟด หลังจากที่ตัดสินใจทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยคาดว่าทองคำจะมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1,250 - 1,300 เหรียญ ก่อนจะเข้าสู่วาระการประชุมครั้งถัดไปของเฟดในเดือนมิถุนายน
นักวิเคราะห์ทางเทคนิคประจำ ScotiaMocatta วิเคราะห์ว่า การเคลื่อนไหวของทองคำในระยะยาวจะอยู่ในกรอบระหว่าง 1,256 - 1,303 เหรียญ