• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2559

    16 พฤษภาคม 2559 | Economic News

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยผู้นำกลุ่ม G7 เล็งใช้มาตรการกระตุ้นการคลังเพื่อหนุนอุปสงค์ทั่วโลก

นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผู้นำส่วนใหญ่ในกลุ่ม G7 เห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับความจำเป็นในการใช้มาตรการกระตุ้นด้านการคลัง เพื่อหนุนอุปสงค์ทั่วโลกให้แข็งแกร่งขึ้น

ทั้งนี้ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงการคลังกลุ่ม G7 และเจ้าหน้าที่จากธนาคารกลาง ระหว่างวันที่ 20-21พฤษภาคม ขณะที่หลายฝ่ายได้แสดงความกังวลว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของประเทศกลุ่ม G7 จะสามารถผลักดันเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัวและเงินเฟ้อต่ำในปัจจุบันนี้ได้อย่างไร


ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในวันนี้

สำนักข่าว MarketWatch ระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในวันนี้ หลังจากที่ นาย Jacob Lew เลขาธิการกรมธนารักษ์ของสหรัฐฯ ระบุในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า สงครามค่าเงินในโลกอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยหากแต่ละประเทศพยายามแข่งขันกันลดค่าเงินของตนเอง จะส่งกระทบไปยังภาคส่วนอื่นๆ

ถ้อยแถลงของนาย Jacob Lew มีขึ้นหลังจากที่ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการแทรกแซงค่าเงินเยน หากแข็งค่ามากจนเกินไป

ดัชนีดอลลาร์ในวันนี้ปรับตัวลดลง 0.06% สู่ระดับ 94.56 จุด


ข้อมูลเศรษฐกิจจีนประจำเดือน เม.ย. ของจีนออกมาแย่กว่าคาด

ข้อมูลเศรษฐกิจประจำเดือน เม.ย. ของจีนออกมาน่าผิดหวัง ตอกย้ำถึงการที่จีนพยายามลดกำลังการผลิตส่วนเกินและระดับหนี้สินลง ได้กดดันเศรษฐกิจจีนให้ชะลอตัว

ตัวเลขภาคการผลิต, ยอดค้าปลีก และการลงทุนในสินทรัพย์คงทน ของจีน ต่างออกมาแย่กว่าคาด

- ภาคการผลิตเติบโต 6.8% เมื่อเทียบรายปี (ตลาดคาด 6.5%, เดิม 6.0%)

- การลงทุนในสินทรัพย์คงทนออกมา 10.5% (ตลาดคาด 11.0%, เดิม 10.7%)

- ยอดค้าปลีกเติบโต 10.1% (ตลาดคาด 10.6%, เดิม 10.5%)

การประมาณการเติบโต GDP ของ Bloomberg ชี้ว่า GDP จีนในเดือน เม.ย. นั้นหดตัวลงสู่ระดับ 6.88% จากระดับเดิมที่ 7.11% ในเดือน มี.ค.

นักเศรษฐศาสตร์ประจำ Bloomberg Intelligence ระบุว่า แม้ว่าจีนยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาที่สะสมมาจากอดีตทั้งระดับหนี้สินที่สูงและกำลังการผลิตส่วนเกินจำนวนมาก ได้กดดันให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัว


ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ แต่นักวิเคราะห์เตือนอาจไม่ปรับสูงขึ้นอีกมากนัก

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์เตือนว่าอาจปรับตัวขึ้นไปได้อีกไม่มากนักจากเนื่องปัจจัยหนุนตลาดน้ำมันเริ่มหมดไป

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 1.71% สู่ระดับ 47.00 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวสูงขึ้น 1.82% สู่ระดับ 48.70 เหรียญ/บาร์เรล


นักวิเคราะห์จาก SCI International ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น แต่การปิดสถานะทำกำไรน่าจะทำให้ราคาไม่สามารถผ่านระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรลไปได้ เว้นเสียแต่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ทำให้ความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ


OPEC ระบุ อุปทานน้ำมันดิบอาจล้นตลาดมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากการผลิตที่พุ่งสูงขึ้น

OPEC ระบุว่า อุปทานน้ำมันดิบของโลกอาจล้นตลาดมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มฯ ต่างเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยผลขาดทุนจากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำลง

ทั้งนี้ระดับอุปทานในกลุ่ม OPEC ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากการยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่าน และสมาชิกนอก OPEC อื่นๆ อาทิ รัสเซีย ที่กำลังเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นหลังการเจรจาเพื่อจำกัดการผลิตล้มเลวในเดือนที่ผ่านมา

OPEC ผลิตน้ำมันดิบวันละ 32.44 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 1.88 แสนบาร์เรล/วัน จากเดือน มี.ค.

โดยพื้นฐานแล้ว สภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดยังคงอยู่ และระดับการผลิตยังอยู่ในระดับสูง” OPEC กล่าวในรายงาน


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com