ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลยูโร โดยนักลงทุนกำลังรอคอยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯในค่ำคืนนี้
เมื่อคืนนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรเนื่องจากการขายเทกำไร โดยเทรดเดอร์กำลังรอคอยการรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯในค่ำคืนนี้
นักวิเคราะห์จาก Commonwealth Foreign Exchange กล่าวว่ามีการเทขายกำไรบ้าง ขณะที่เมื่อวานนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวของข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญใดๆ โดยค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะยอดการค้าปลีกในวันศุกร์ที่ผ่านมา
โดยเมื่อคืนนี้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.11% สู่ระดับ 1.1334 ดอลลาร์/ยูโร
ในวันนี้นักลงทุนในตลาดกำลังจับตามองไปยังข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
ตลาดในวันนี้กำลังจับตามองการประกาศข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯในค่ำคืนนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงมุมมองของนักลงทุนต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้
โดยตลาดคาดการณ์ว่าดัชนีราตาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) จะออกมาที่ระดับ 2.1% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ2.2% เมื่อเดือนก่อนหน้า
หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ประจำ RBS คาดการณ์ว่า Core CPI จะออกมาระดับที่ 2.1% สอดคล้องกับมุมมองของตลาด แต่ทั้งนี้หากข้อมูลดังกล่าวชะลอตัวลง คาดว่าเฟดจะไม่เร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ เฟดให้ความสำคัญกับดัชนีเงินเฟ้อโดย PCE มากกว่า CPI ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ระดับ 1.6% โดยยังต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2% แต่เทรดเดอร์ยังคงจับตามองตัวเลข CPI ในค่ำคืนนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่มากขึ้นจะส่งผลให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่องในวันนี้
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่องในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากรายงานของ Goldman Sachs เมื่อวานนี้ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ ช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา
น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 1.34% สู่ระดับ 48.29 เหรียญ/บาร์เรล
หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ประจำ Phillip Futures ระบุว่า ระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล เป็นแนวต้านจิตวิทยาที่สำคัญ ประกอบกับความจริงที่ว่า ปัจจุบันตลาดน้ำมันดิบเกิดภาวะอุปทานล้นตลาดยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบอยู่ ดังนั้นคาดว่าในระยะสั้น ราคาน้ำมันดิบจะถูกแรงเทขายทำไรให้ลดลงไปอยู่ที่ระดับ 45 เหรียญ/บาร์เรล