ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ที่ระดับ 95.27 หลังเฟดเผยรายงานประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ ขณะที่เช้านี้ดัชนีดอลลาร์ย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 95.18 ด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมาเคลื่อนไหวแถวระดับ 1.1227 ดอลลาร์/ยูโร ในเช้าวันนี้ จากระดับ 1.1245 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินเยนเช้านี้ปรับขึ้นมาบริเวณ 110.07 เยน/ดอลลาร์
สรุปรายงานประชุมเฟดประจำเดือนเมษายนเมื่อคืนนี้ พบว่า อาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งทางการขยายตัวในไตรมาสที่ 2 เช่นเดียวกับการขยายตัวของเงินเฟ้อและการจ้างงาน
หลังจากมีการเปิดเผยรายงานการประชุมดังกล่าว ส่งผลให้เหล่าเทรดเดอร์ประเมินว่า มีโอกาส 34% ที่เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้ โดยผลสำรวจดังกล่าวปรับเพิ่มขึ้น 15% จากวันก่อนหน้าที่สำรวจโดยโปรแกรมFedWatch ของ CME Group ขณะที่ในเดือนกรกฎาคม เหล่าเทรดเดอร์มีมุมองว่ามีโอกาสมากถึง 50% ที่เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
น้ำมันดิบ WTI ปิด -0.3% ที่ระดับ 48.19 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -0.7% ที่ระดับ 48.93 เหรียญ/บาร์เรล โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์หลังเฟดส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ รวมทั้งรายงานจาก EIA ที่เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว 1.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 541.3 ล้านบาร์เรล