ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่ไม่อ่อนค่าลงมากนักเนื่องจากนักลงทุนที่ยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น
ดัชนี MSCI's Asia-Pacific ex Japan ปรับตัวสูงขึ้น 0.6% แม่จะได้รับแรงกดดันจากเฟดที่อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาอ่อนแอ รวมถึงการที่ญี่ปุ่นยืนยันจะปรับขึ้นภาษีการขาย ปัดเป่าความหวังที่ว่ารัฐบาลอาจจะชะลอไม่ขึ้นภาษีออกไป
ดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวลดลง 0.5% สู่ระดับ 16,654.60 จุด
ขณะที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากภาพรวมตลาดยังเป็นขาลงจากความกังวลว่าทางการจีนอาจไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ดัชนี Shanghai Composite ปรับตัวสูงขึ้น 0.6% สู่ระดับ 2,843.65 จุด
ทั้งนี้ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลงติดต่อกัน 5 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนที่กังวลว่า เศรษฐกิจจีนที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวจะไม่สามารถฟื้นตัวได้ต่อ โดยทางการจีนเริ่มระมัดระวังในการใช้นโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเนื่องจากหนี้เสียของภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้นมาก
ตลาดหุ้นฮ่องกงทรงตัวในวันนี้ สะท้อนถึงความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนและเฟดที่อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
โดยดัชนี Hang Seng ปรับตัวลดลง 0.2% สู่ระดับ 19,809.03 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขาย 1.1 พันล้านหุ้น ใกล้กับระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 4 เดือน
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 มีนาคม 2559 ว่ามีจำนวน6,013,649.86 ล้านบาท หรือคิดเป็น 44.03% ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้ของรัฐบาล จำนวน 4,431,683.97 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิ 7,862.69 ล้านบาท
โดยหนี้ของรัฐบาล จำนวน 4,431,683.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 16,332.21 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 5,759.52 ล้านบาท
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ยืนยันว่าทิศทางเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้เริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปี 2559 ที่ออกมาขยายตัวได้ 3.2% และมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะยังขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 3.3%