เมื่อคืนนี้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนเกือบ 1% แตะระดับ 109.12 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในคืนวันศุกร์บริเวณ 110.59 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้ดัชนีดอลลาร์รีบาวน์กลับขึ้นมาเล็กน้อยบริเวณ 95.29 ขณะที่ค่าเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1207 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าขึ้นเล็กน้อยบริเวณ 35.70 บาท/ดอลลาร์
รายงานจาก Investing ระบุว่า นายแพทริก ฮาเกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย กล่าวเมื่อคืนนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ตามที่ประเมินไว้
ขณะที่ นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดมีแผนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หากข้อมูลเศรษฐกิจขยายตัวได้ตามคาด ทั้งนี้หากเฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำที่นานเกินไปอาจส่งผลให้ตลาดการเงินไม่มีเสถียรภาพในอนาคต
ด้าน นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก แสดงความคิดเห็นว่า อาจเป็นเรื่องที่เหมาะสมสำหรับการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 2-3 ครั้งในปีนี้และอีกจำนวน 3-4 ครั้งในปี 2017
หลังจากถ้อยแถลงประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์แล้ว โปรแกรม FedWatch ของCME Group ระบุว่า ตลาดมีมุมมองว่า โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเดือนมิถุนายนอยู่ที่ระดับ 30% ขณะที่โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 50%
อย่างไรก็ดี จับตาการประชุมเฟดที่จะเกิดขึ้นในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า
น้ำมันดิบ WTI ปิด -0.7% ที่ระดับ 48.08 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -0.8% ที่ระดับ 48.35 เหรียญ/บาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันหลังมีรายงานว่าอิหร่านไม่มีแผนตึงกำลังการผลิต ขณะที่กำหนดการประชุมของกลุ่มโอเปคจะเกิดขึ้นในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับระดับเป้าหมายการผลิตน้ำมันระดับโลก
อย่างไรก็ดี สงครามการแข่งขันกันระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบียที่ยังมีอยู่ในตะวันออกกลาง ยังเป็นปัจจัยลบต่อการประชุมโอเปคเดือนหน้า