ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้อาจเหมาะสมตราบเท่าที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง ก่อนจะอ่อนตัวลงมาแถวระดับ 95.16 โดยค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบจับตาถ้อยแถลงประธานเฟดที่จะมีขึ้นในคืนนี้ ณ มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ว่าจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ขณะเดียวกันตลาดก็จับตาข้อมูลประมาณการณ์จีดีพีไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด ซึ่งนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์สเชื่อว่าจะมีการปรับทบทวนสูงขึ้นจากประมาณการณ์ก่อนหน้า และจะเป็นการบ่งชี้ถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯอีกครั้งหลังจากที่ชะลอตัวลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
เช้านี้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเช้านี้บริเวณ 1.1189 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.1149 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวแถวระดับ 109.92 เยน/ดอลลาร์ และค่าเงินบาทกลับแข็งค่าลงมาทดสอบระดับ 35.54 บาท/ดอลลาร์ในเช้านี้
ถ้อยแถลงสมาชิกเฟดเมื่อคืนนี้ ได้แก่ นายเจอโรม โพเวล เจ้าหน้าที่บอร์ดบริหารของเฟด กล่าวว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงขยายตัวหนุนมุมมองที่พวกเราคาดการณ์เอาไว้ ผมคิดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลที่กำลังจะออกมา แต่การชะลอตัวของภาคการผลิตอาจชะลอช่วงเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
ด้านนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า ตลาดการเงินมีการประเมินที่ถูกต้องมากขึ้น ณ ขณะนี้ เกี่ยวกับโอกาสในการปรับขึ้นอัตรดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้มากกว่าที่ผ่านมา
ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ส่วนใหญ่ออกมาแข็งแกร่ง นำโดย ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนเมษายน ขยายตัวขึ้นเกินคาดแตะระดับ 3.4% ขณะที่ในเดือนก่อนหน้าก็มีการปรับทบทวนขึ้นมาที่ระดับ 1.9% ด้านยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่รวมภาคยานยนต์ก็ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 0.4% จากเดิมที่ระดับ 0.1% สำหรับข้อมูลยอดขายบ้านที่รอปิดการขายประจำเดือนเมษายนก็ออกมาดีขึ้นเกินคาดอย่างมากแตะระดับ 5.1% จากเดิมที่ระดับ 1.6%
ขณะที่ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 63 โดยข้อมูลล่าสุดปรับตัวลงเกินคาดแตะระดับ 268,000 ราย หรือลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 10,000 ราย จึงยังบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน
น้ำมันดิบ WTI ปิด -0.2% ที่ระดับ 49.48 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -0.3% ที่ระดับ 49.59 เหรียญ/บาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันจากการเทขายของกลุ่มนักลงทุนหลังนราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการแถวระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล
รายงานล่าสุดจาก BBC ระบุว่า การประชุมกลุ่ม G7 ในวันแรก มีการกล่าวว่า การลงประชามติออกจากอียูของอังกฤษ อาจสร้างความเสี่ยงอย่างมากต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก