ในเช้าวันนี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบสามเดือนครึ่งเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ดีราคาทองคำยังคงลดลงมากที่สุดในรอบเดือนตั้งแต่เดือน พ.ย. เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนกำลังจับตาไปยังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยในวันนี้ได้แก่ข้อมูลรายจ่ายส่วนบุคคล และความเชื่อมั่นผู้บริโภค ขณะที่ในวันศุกร์จะมีตัวเลขสำคัญภาคแรงงาน ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตร
ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสมาชิกเฟดหลายท่าน รวมถึงประธานเฟด ออกมาชี้ว่าเฟดอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้
ในเดือน พ.ค. ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาแล้วราว 6.2% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.
เทรดเดอร์จาก MKS Group ระบุว่า ราคาทองคำยังถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีปัจจัยหนุนทางเทคนิคก็ตาม
กราฟราคาทองคำระหว่างวันมีการรีบาวน์ขึ้นมา หลังจากที่ปรับตัวลดลงจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ที่ขานรับต่อการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
อย่างไรก็ดี เฟดก็ยังคงรอคอยตัวเลข PCE Inflation โดยคาดว่าจะยังทรงตัวที่ระดับ 1.6% ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงออกมาดีขึ้นเกินคาด ส่งผลให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายประเมินถึงโอกาสที่เฟดอาจทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น จึงส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น และสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ
นักวิเคราะห์จาก Daily FX วิเคราะห์ว่า ราคาทองคำรีบาวน์กลับหลังจากที่ปรับตัวลดลงติดต่อกัน 9 วันทำการ โดยหากทองคำกลับยืนเหนือแนวต้านแรก 1,231.48 เหรียญได้ จะมีระดับราคาเป้าหมายอยู่ที่ 1,242.88 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci Retracement 23.6% ในทางตรงข้าม หากราคาหลุดแนวรับ 1,205.3 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci 38.2% ก็มีโอกาสปรับตัวลงต่อทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci 50% บริเวณ 1,174.93 เหรียญ