ราคาทองคำปรับตัวลดลงในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมากว่า 6.1% (มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนที่คาดการณ์ว่าเฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้มากขึ้น
โดยการคาดการณ์ของนักลงทุนว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. และ ก.ค. นี้ ปรับตัวสูงขึ้นพร้อมๆกับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในเดือน พ.ค. กดดันราคาทองคำ
ในสัปดาห์นี้นักลงทุนในตลาดยังคงรอคอย Beige Book ซึ่งเป็นรายงานการสำรวจสภาพเศรษฐกิจของเฟด ในค่ำคืนวันนี้ และตัวเลขการจ้างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ในคืนวันศุกร์นี้
ขณะที่ในสัปดาห์หน้านักลงทุนกำลังติดตามถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในวันจันทร์ที่ 6 มิ.ย.
นักวิเคราะห์จาก GoldSilver Central Pte ระบุว่า นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ดังนั้นจนกว่าประธานเฟดจะมีถ้อยแถลงใดๆ คาดว่าราคาทองคำน่าจะไม่เคลื่อนไหวมากนัก เว้นเสียแต่ว่าข้อมูลเศรษฐกิจระหว่างนี้จะออกมาผิดจากที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้มาก
นักวิเคราะห์จาก Australia & New Zealand Banking Group ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันแรกในรอบกว่า 10 วัน เนื่องจากนักลงทุนในตลาดเลือกที่จะโฟกัสข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ไม่ดีนักเมื่อวานนี้
นักลงทุนในตลาดฟืวเจอร์ส คาดการณ์ว่า เฟดมีโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ย 23% ในเดือน มิ.ย. ลดลงจากระดับ 34%
นักวิเคราะห์จาก Merrill Lynch ระบุว่า จากข้อมูล Fed-Funds Futures ย้อนหลังถึงปี 1994 บ่งชี้ว่า เฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่านักลงทุนในตลาดจะคาดว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 60% ในวันก่อนขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley คาดการณ์ว่าเฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ 1-2 ครั้งในปีนี้ โดยระบุถึง ใน 4 สัปดาห์ก่อน ความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับเพียง 5% แต่ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นสูงขึ้นอย่างมาก เฟดทำได้ดีในการชี้นำตลาด โดนในขณะนี้ตลาดการเงินต่างคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ 1-2 ครั้งในปีนี้