• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2559

    1 มิถุนายน 2559 | Economic News


ดัชนี PMI จีน บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น



ในวันนี้จีนเผยดัชนี PMI ภาคการผลิต ประจำเดือน พ.ค. ออกมา ณ ระดับ 50.1 เท่ากับระดับเดือน เม.ย. โดยสามารถยืนเหนือระดับ 50 จุดได้เป็นเดือนที่ 3 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการ ออกมา ณ ระดับ 53.1 (เดิม 53.5)

โดยระดับที่สูงกว่า 50 จุด แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี PMI ภาคการผลิตโดย Caixin ออกมาที่ระดับ 49.2 ลดลงจากเดิมที่ 49.4 จุด

ปัจจุบันทางการจีนกำลังพยายามทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ปีละ 6.5% พร้อมๆกับลดภาระหนี้สินและลดอุปทานส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล็ก และ ถ่านหิน

นักวิเคราะห์จาก Credit Suisse ระบุว่า เศรษฐกิจจีนกำลังมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ยังขาดปัจจัยหนุนเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจจีนกลับมาแย่ลงในเดือน เม.ย. ซึ่งเหตการณ์ดังกล่าวจะความท้าทายแก่ธนาคารกลางจีน ว่าจะอดทนไม่เพิ่มนโยบายการเงินและยังคงพยายามจัดการกับอุปทานส่วนเกินได้หรือไม่


นายกฯญี่ปุ่นเผยจะชะลอการปรับขึ้นภาษีบริโภคออกไปเป็นเดือน ต.ค.2562

นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในการประชุมพรรคแอลดีพีวันนี้ว่า จะเลื่อนการปรับขึ้นภาษีการบริโภคออกไปจนกว่าจะถึงเดือน ต.ค. 2562 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยนายอาเบะ จะจัดการแถลงข่าวในช่วงเย็นวันนี้ เพื่อที่จะอธิบายให้กับประชาชนได้รับทราบ

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายอาเบะตั้งเป้าที่จะขึ้นภาษีบริโภคเป็น 10% จากเดิมที่ 8% เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในเดือนเม.ย. 2560 การตัดสินใจครั้งนี้สวนทางกับจุดยืนในอดีตของนายอาเบะ โดยแต่เดิมนั้นนายอาเบะ เคยกล่าวเอาไว้ว่านโยบายเศรษฐกิจของเขาจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นแข็งแกร่งพอที่จะรองรับผลกระทบจากการขึ้นภาษีได้

อย่างไรก็ดี การตัดสินใจของนายอาเบะในครั้งนี้ จะส่งผลให้รายได้ของภาครัฐลดลง และอาจสร้างปัญหาแก่ความสามารถในการชำระหนี้ของญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับสูงมากราว 2 เท่าครึ่งของขนาดเศรษฐกิจฯ




ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นหลังถ้อยแถลงของนายอาเบะ กว่า 0.7% จากระดับ 110.69 เยน/ดอลลาร์ สู่ระดับ 109.91 เยน/ดอลลาร์


ราคาน้ำมันดิบหดตัวลงในวันนี้ เนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและการผลิตน้ำมันดิบที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงในตะวันออกกลาง

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากการคาดการณ์ว่า ระดับการผลิตน้ำมันดิบในตะวันออกกลางจะยังคงอยู่ในระดับสูง และความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนกดดันอุปสงค์น้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 1.00% สู่ระดับ 48.61 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวลดลง 1.10% สู่ระดับ 49.34 เหรียญ/บาร์เรล

นักวิเคราะห์โดยส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่า การประชุม OPEC ในวันพรุ่งนี้ ที่ประชุมจะยังคงมีมติเช่นเดิม ที่ต้องการป้องกันส่วนแบ่งการตลาด มากกว่าที่จะพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตลงเพื่อหนุนราคาพลังงาน

นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ระบุว่า สมาชิก OPEC หลายราย มีแผนที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบ ดังนั้นความเป็นไปได้ในการปรับลดกำลังการผลิตลง น่าจะลดลงจากประเด็นดังกล่าว

ทั้งนี้สมาชิก OPEC หลายราย ตั้งแต่ ซาอุดิอาระเบีย, อิรัก, อิหร่าน และ UAE ต่างพยายามแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดในเอเชีย

ขณะที่ในด้านความต้องการน้ำมันดิบ Morgan Stanley ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจในเดือน เม.ย. ของจีนออกมาอ่อนแอ จึงทำให้ความกังวลว่าจีนอาจชะลอการบริโภคน้ำมันลง

นักวิเคราะห์จาก Barclays ระบุว่า นับตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นไปแล้วกว่า 20% เนื่องจากพื้นที่การผลิตน้ำมันดิบหลายแห่งมีเหตุให้ต้องหยุดชะงักลง อาทิ แอฟริกา และ แคนาดา เป็นต้น ประกอบการความต้องการน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในสหรัฐฯ ความต้องการน้ำมันดิบเพิ่มสูงขึ้น 2% ในเดือน มี.ค. สู่ระดับ 19.6 ล้านบาร์เรล/วัน มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com