ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด +0.27% ที่ระดับ 17,838.56 จุด เพราะได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสที่ช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ควบคู่กับการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสุขภาพ (Healthcare) ทีชดเชยการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน
ทั้งนี้ การจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานสหรัฐฯที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ช่วยหนุนมุมมองว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯไตรมาส 2
ตลาดหุ้นเอเชียทรงตัวในเช้านี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯที่อาจเพิ่มขึ้นหรือลดคาดการณ์ความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้หรือกรกฎาคม โดยเช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.6% ขณะที่ดัชนี MSCI +0.15%
นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50 – 35.70 บาท/ดอลลาร์ โดยมีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่งหากหลุด 35.50 บาท/ดอลลาร์ มีโอกาสลงลึกแถวระดับ 35.35 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นแนวรับสำคัญถัดไปของค่าเงินบาท