ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าหลังอีซีบีมีท่าทีระมัดระวังต่อแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันราคาน้ำดิบปรับตัวขึ้นจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับตัวลง หลังจากที่อ่อนตัวลงจากการประชุมกลุ่มโอเปกล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงการกำหนดเพดานการผลิตน้ำมัน
ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ ณ ขณะนี้ ประเมินว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาอาจส่งผลให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมระหว่าง 14-15 มิถุนายนนี้
โดยเช้านี้ค่าเงินยูโรยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนบริเวณ 121.4 เยน/ยูโร หลังจากที่ลงไปทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เมษายน 2013 เมื่อคืนนี้บริเวณ 121.065 เยน/ยูโร ขณะที่เทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมาแตะระดับ 1.1150 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับสูงสุดวานนี้บริเวณ 1.1221 ดอลลาร์/ยูโร
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 95.378 โดยเช้านี้อยู่ที่ระดับ 95.552 ด้านค่าเงินเยนเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าขึ้นเล็กน้อยบริเวณ 108.967 เยน/ดอลลาร์ จากระดับแข็งค่าเมื่อวานนี้ 108.52 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่เงินบาทเช้านี้กลับแข็งค่าลงมาเล็กน้อยบริเวณ 35.55 บาท/ดอลลาร์
ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯพบว่า การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของภาคเอกชนสหรัฐฯเดือนพฤษภาคมออกมาดีขึ้นจากเดิมประมาณ 7,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 173,000 ตำแหน่ง ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ออกมาดีขึ้นจากเดิมเล็กน้อยประมาณ 1,000 รายที่ระดับ 267,000 ราย โดยยังคงปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 และอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 64
นายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวหนุนให้เฟดทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดูเหมือนจะมีการฟื้นตัวที่เพียงพอต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมนี้ ขณะที่กาขยายตัวทางเศรษฐกิจคาดว่าจะขยายตัวได้แตะระดับ 2% ปีนี้ ควบคู่กับอัตราการว่างงานที่ปรับตัวลดลงและอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะกลับสู่เป้าหมาย 2% ที่เฟดกำหนดได้
นายเจอโรม โพเวล ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า ภาคธนาคารขนาดใหญ่ของอเมริกามีแนวโน้มต้องทำการเพิ่มงบดุลในการป้องกันกับความผันผวนอย่างคาดไม่ถึงของภาคการเงินที่อาจเกิดขึ้นได้
รอยเตอร์ส ระบุว่า อีซีบีปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ แต่ยังประเมินการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยังต่ำกว่าระดับเป้าหมายจนถึงปี 2018 จากการทรุดตัวของราคาพลังงาน และสิค้าอื่นๆ รวมทั้งภาคบริการ
นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี เผยว่า ที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ 0% ต่อไป ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังคงอยู่ระดับ -0.4% และอัตราดอกเบี้ยเงินเงินกู้ marginal lending facility อยู่ที่ระดับ 0.25% สำหรับมาตรการ QE ที่มีกำหนดการสิ้นสุดในช่วงมีนาคม 2017 อาจมีการขยายระยะเวลาออกไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะฟื้นตัวอย่างไม่มีนัยยะสำคัญ
นอกจากนี้ อีซีบียังปรับทบทวนคาดการณ์จีดีพีปี 2016 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.6% (เดิม 1.4% ในเดือนมีนาคม) ขณะที่ปี 2017 และ 2018 ยังคงเป้าหมายคาดการณ์ที่ระดับ 1.7% ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากคาดการณ์ก่อนหน้า ด้านอัตราเงินเฟ้อปีนี้ปรับทบทวนคาดการณ์เพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.2% (คาดการณ์เดิม 0.1%) และคาดว่าปี 2017 มีโอกาสเห็นเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นแตะ 1.3% และในปี 2018 ที่ระดับ 1.6% พร้อมระบุว่าอีซีบีพร้อมรับมือกับผลการลงประชามติของอังกฤษไม่ว่าจะอยู่หรือไม่ในอียู
การประชุมกลุ่มโอเปกยังคงล้มเหลวเรื่องข้อตกลงเรื่องกำลังการผลิต เนื่องจากอิหร่านยังคงยืนยันที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งความล้มเหลวในการประชุมดังกล่าว สร้างความกังวลเพิ่มขึ้นต่อภาวะอุปทานที่สูงเกินไป ขณะที่อุปสงค์ชะลอตัว จึงส่งผลให้เหล่าเทรดเดอร์ทำการเทขายสัญญาน้ำมัน แต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้าสู่ตลาดบ้างบางส่วนหลังรัฐบาลสหรัฐฯจะเปิดเผยว่า ปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ น้ำมันดิบ WTI ปิด +0.33% ที่ระดับ 49.17 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด +0.64% ที่ระดับ 50.04เหรียญ/บาร์เรล