ทั้งนี้ดัชนีนิกเกอิร่วงลงประมาณ 3.1% แถวระดับ 15,434.14 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเมษายน และนับเป็นครั้งที่ 6 ที่ดัชนีร่วงลงมากกว่า 3% ในไตรมาสนี้
ความผันผวนของดัชนีนิกเกอิเพิ่มขึ้น 35.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 30 เม.ย.59 มีจำนวน 6,050,595.88 ล้านบาท คิดเป็น 44.09% ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้ของรัฐบาล จำนวน 4,474,219.15 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน1,039,689.49 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 524,402.57 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 12,284.67 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิ 36,946.02 ล้านบาท
และกล่าวถึงกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิมที่ 0.25-0.50% ว่าเป็นผลดีกับเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทยด้วยที่คาดว่าจะมีเงินลงทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะประเทศเหล่านี้ยังมีแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง และการคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดครั้งนี้ ยังถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้กู้เงิน ซึ่งรวมถึง สบน.ด้วย
ในวันนี้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนกลับมาให้ความสำคัญกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อวานนี้ปรับตัวสูงขึ้นมาได้จากแรงเก็งกำไรของนักลงทุน
ดัชนี Shanghai Composite ปรับตัวลดลง 0.5% สู่ระดับ 2,872.82 จุด
ในวันนี้ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลดลงต่ำกว่า 2% เนื่องจากความกังวลต่อความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป หลังจากที่เฟดระมัดระวังที่จะปรับขึ้นอัตราดอกกเบี้ยมากขึ้น
ดัชนี Hang Seng ปรับตัวลดลง 2.1% สู่ระดับ 20,038.42 จุด