

ค่าเงินยูโรกลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ 0.2% บริเวณ 1.324 ดอลลาร์/ยูโร เพราะได้รับแรงหนุนจากการคลายความกังวลว่าอังกฤษจะออกจากอียู จึงหนุนให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนตัวลงมา 93.539
ค่าเงินปอนด์ของอังกฤษปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้บริเวณ 1.4802 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบปีบริเวณ 1.4847 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากที่ผลสำรวจโพลล์จำสำนักต่างๆอาทิ ComRe และ YouGov ยังคงมีความต้องการที่จะอยู่ในอียูต่อไป ก่อนที่จะเริ่มการลงประชามติ นอกจานี้ ความกังวลต่อ Brexit ที่ลดลงช่วยหนุนให้ค่าเงินปอนด์สัปดาห์นี้ปรับตัวขึ้นแล้วกว่า 3%
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานผลสำรวจล่าสุดเมื่อวานนี้ก่อนที่ประชาชนจะเริ่มต้นลงคะแนน ซึ่งผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าชาวอังกฤษมีความต้องการอยู่ในอียูมากขึ้น ดังนั้นจึงควรต้องจับตาการลงประชามติในวันนี้อย่างใกล้ชิด
สำนักข่าวบีบีซี ระบุว่า การลงประชามติของอังกฤษจะมีการปิดหีบในช่วงเวลา 22.00น.ของอังกฤษ หรือเวลาตี 4 บ้านเรา ซึ่งจะส่งผลให้เราทราบผลการโหวตในวันศุกร์นี้
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า เราจะเริ่มทราบผลการนับคะแนนโหวตที่แรกในช่วงเวลา 12.30น. ตามเวลาอังกฤษ หรือเวลา 06.30น. ตามเวลาไทย จากนิวคาสเทิลและซัดเดอร์แลนด์เป็นที่แรก และจะทราบผลคะแนนเขตสุดท้ายในช่วงเวลาประมาณ 07.00น. ตามเวลาอังกฤษหรือเวลา 13.00น. ตามเวลาไทย
นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้เข้าแถลงนโยบายการเงิน และรายงานภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยระบุถึงความคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัวขึ้น
นอกจากนี้ประธานเฟดยังระบุว่า จะไม่มีการประชุมในวันศุกร์หรือวันเสาร์นี้ เพื่อหารือกันในเรื่องการทำประชามติออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ แต่ระบุว่า จะติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ราคาน้ำมันดิบเช้านี้ปรับตัวสูงขึ้นจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดรอผลการลงประชามติของอังกฤษ ขณะที่เมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -1.4% ที่ระดับ 49.13 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -1.5% ที่ระดับ 49.88 เหรียญ/บาร์เรล จากกลุ่มนักลงทุนที่ไม่แน่ใจว่าอังกฤษจะอยู่หรือไปในอียู
