นักวิเคราะห์จาก Wells Fargo ระบุว่า ในทางทฤษฎีแล้ว BREXIT มีผลต่อเศรษฐกิจโลกโดยตรงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากอังกฤษมีขนาดเศรษฐกิจเพียง 4% เมื่อเทียบกับ GDP ของโลก อย่างไรก็ดี มีผลกระทบทางอ้อมที่ต้องพิจารณา นั่นคือความไม่แน่นอนของการเมืองโลกและตลาดการเงินที่ตึงตัว ซึ่งจะกดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยการทำให้การลงทุนลดลง
เราอาจเห็นสก็อตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือ ทำประชามติแยกออกจากอังกฤษ
นาง Nicola Sturgeon นายกรัฐมนตรีของสก็อตแลนด์ ระบุว่า การทำประชามติแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรของสก็อตแลนด์ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง
ทั้งนี้สก็อตแลนด์ เลือกที่จะอยู่ในอียูต่อไปด้วยคะแนน 62-38 ขณะที่อังกฤษเลือกจะอยู่กับอียูต่อด้วยคะแนน 42-58
นาง Nicola Sturgeon ระบุ “มันชัดเจนว่าการทำประชามติแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรเป็นทางเลือกของเรา และเรากำลังพิจารณามัน ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เรากำลังจะต้องออกจากอียู”
ทั้งนี้สก็อตแลนด์เคยทำประชามติออกจากสหราชอาณาจักรในปี 2014 และผลคืออยู่ต่อ 55% และ ณ ขณะนั้น Campaignของการรณรงค์ให้อยู่กับสหราชอาณาจักรต่อไป คือการได้อยู่กับอียู ซึ่งหากสก็อตแลนด์แยกตัวออกมา อาจไม่สามารถเข้าสู่อียูได้
นอกจากนี้ ในระยะหลัง นาง Nicola Sturgeon นักการเมืองผู้ซึ่งมีแนวคิดต้องการให้สก็อตแลนด์แยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร ชนะการเลือกตั้งติดต่อกันมาหลายครั้ง
นอกจากสก็อตแลนด์แล้ว ไอร์แลนด์เหนือ ที่ซึ่งผลโหวตต้องการอยู่กับอียูต่อไป โดยมีคะแนนเสียง 55.8 ต่อ 44.2
รองนายกรัฐมนตรีของไอร์แลนด์เหนือ ระบุว่า ชาวไอร์แลนด์เหนือ แสดงให้เห็นว่าต้องการอยู่กับอียูต่อไป ดังนั้น ณ ขณะนี้เราต้องการจัดประชุมด่วนทั้งในรัฐบาลไอร์แลนด์เหนือ สถาบันต่างๆในยุโรป รวมถึงสก็อตแลนด์ เพื่อหาหนทางที่ประชาชนของเราจะพึงพอใจได้มากที่สุด
อย่างไรก็ดี ในไอร์แลนด์เหนือนั้นยังมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจาก นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์เหนือผู้ซึ่งนิยมอังกฤษ ระบุว่า การที่ไอร์แลนด์จะทำประชามติออกจากสหราชอาณาจักร นับเป็นการฉวยโอกาส และไม่มีทางที่การทำประชามติดังกล่าวจะเกิดขึ้น
เราอาจเห็นสหภาพยุโรปแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ ต่างคาดการณ์ว่า มีโอกาสที่สหภาพยุโรปจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
โดยหลังจากที่อังกฤษเลือกที่จะออกจากสหภาพยุโรป นาง Marie Le Pen นักการเมืองชาวฝรั่งเศส ระบุว่า หากเธอชนะการเลือกตั้ง เธอจะจัดการทำประชามามติเช่นเดียวกับอังกฤษ
นอกจากนี้ นาง Marie Le Pen ยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆในอียูจัดทำประชามติเช่นเดียวกับอังกฤษอีกด้วย
ทั้งนี้ฝรั่งเศส มีกำหนดการเลือกตั้งครั้งถัดไปในเดือน เม.ย. 2017
นาย Geert Wilders ผู้นำฝ่ายขวาจัดของเนเธอร์แลนด์ เรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์ทำประชามติออกจากสหภาพยุโรปเช่นเดียวกับอังกฤษ โดยนาย Wilders ระบุว่า “เราต้องการเปลี่ยนประเทศของเรา ต้องการเงินของเรา เขตแดนของเรา และนโยบายผู้อพยพของเรา”
นอกจากนี้ผลการสำรวจโดยรายการโทรทัศน์ Een Vandaag ในสัปดาห์นี้ ระบุว่า 54% ของชาวเนเธอร์แลนด์ต้องการทำประชามติ
ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Capital Economics ระบุว่า เนเธอร์แลนด์อาจเป็นประเทศต่อไป ที่เลือกจะออกจากสหภาพยุโรป โดย ณ ขณะนี้คะแนนนิยมของพรรคการเมืองฝ่ายต่อต้านอียู กำลังนำอยู่ 13%
ทั้งนี้เนเธอร์แลนด์ มีกำหนดการเลือกตั้งครั้งถัดไปในเดือน มี.ค. 2017
ที่มา : aljazeera, Wells Fargo, Kitco, Reuters, Politico