MTS Help Center

ในวันนี้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงอีกกว่า 2% โดยตลาดการเงินได้รับผลกระทบจากการทำประชามติ BREXIT ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ค่าเงินปอนด์ในวันนี้อ่อนค่าลงอีก 2.4% สู่ระดับ 1.3388 ดอลลาร์/ปอนด์ ซึ่งยังห่างจากจุดต่ำสุดในรอบ 31 ปี ที่ระดับ 1.3228 ดอลลาร์/ปอนด์ ซึ่งลงไปแตะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

มุมมองของนักลงทุนยังคงอ่อนแอ และความผันผวนยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าในวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดจะปรับตัวลดลงมามากแล้วก็ตาม โดยวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงในระดับวันมากที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี

ในวันนี้ดัชนี MSCI Asia-Pacific ex Japan ปรับตัวลดลง 0.9% โดยยังได้รับแรงกดดันหลักจาก Brexit

เกิดคำถามมากมายว่าการที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป จะส่งผลให้เศรษฐกิจอังกฤษและยุโรปชะลอตัวลงเท่าใด พวกเขาจะมีความสัมพันธ์กันอย่างไร และกลุ่มผู้นำของยุโรปจะมีมาตรการอย่างไรเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่สหภาพยุโรป

วันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลส่งสัญญาณเตือนว่าอาจเข้าแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินเยนหลังจากที่อังกฤษได้โหวตออกจาสหภาพยุโรป

ดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวสูงขึ้น 2.4% สู่ระดับ 15,309.21 จุด หลังจากที่ปรับตัวลงถึง 7.9% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา

วันนี้ตลาดหุ้นจีนรีบาวด์มากกว่า 1% นำโดยหุ้นกลุ่ม Small-Caps เนื่องจากนักลงทุนตอบรับข่าวการทำประชามติของอังกฤษไปแล้ว

ดัชนี Shanghai Composite ปรับตัวสูงขึ้น 1.5% สู่ระดับ 2,895.70 จุด

วันนี้ตลาดหุ้นฮ่องกงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังจากที่หดตัวลงอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ดัชนี Hang Seng ปรับตัวลดลง 0.2% สู่ระดับ 20,227.30

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่า หลังจากที่อังกฤษตัดสินใจแยกตัวออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป หรือ Brexit แล้วนั้น ก็เป็นหน้าที่ของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะเข้าไปดูแลผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะต้องติดตามว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะมีผลกระทบในด้านการค้า การส่งออกกับตลาด EU รวมทั้งตลาดส่งออกอื่นๆ ของไทยหรือไม่อย่างไร ซึ่งมองว่าผลกระทบด้านการส่งออกคงจะมีแน่นอนอยู่แล้ว