ราคาทองคำในตลาด COMEX วันนี้ปรับตัวสูงขึ้นระหว่างวันที่ระดับ 1,360.30 เหรียญ ก่อนที่จะปรับตัวลดลงที่ระดับ 1,353.00 เหรียญ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 16.70 เหรียญ หรือ 1.27% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 9% ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ในช่วงการซื้อขายของตลาดยุโรป ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ในขณะที่ราคาซิลเวอร์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่กรกฏาคมปี 2014
วันนี้ตลาดการเงินสหรัฐฯปิดทำการ เนื่องใน “วันชาติสหรัฐฯ”
ผู้จัดการกองทุนประจำ Swiss Asia Capital กล่าวว่า ทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในฐานะ Safe-Haven โดยระบุว่า ทองมีโอกาสขึ้นต่อเนื่องไปทำจุดสูงสุดในอีก 18 เดือนข้างหน้า ท่ามกลางอัตราดอกผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำถึงติดลบ และถึงแม้ว่าทองคำจะไม่ให้ผลตอบแทนและยังมีต้นทุนในการถือครอง ทองคำก็ยังเป็นที่น่าสนใจในสถานการณ์ปัจจุบัน
กองทุนทองคำทั่วโลกได้เข้าถือครองทองคำเพิ่มเติมมากกว่า 500 ตัน นับตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว, เฟดที่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้น้อยลง และ Brexit
ข้อมูลโดย Bloomberg ระบุว่า กองทุนทองคำทั่วโลก ถือครองทองคำเพิ่มเติมอีก 6.6 ตัน สู่ระดับ 1,959.1 ตัน ในวันศุกร์ที่ผ่านมา จากระดับ 1,458.1 ตัน ในวันที่ 6 ม.ค.
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากการทำประชามติ Brexit, เฟดที่ขึ้นดอกเบี้ยได้ช้าลง, การใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบของยุโรปและญี่ปุ่น
นักเศรษฐศาสตร์จาก National Australia Bank Ltd. ระบุว่า ภาวะตลาดพันธบัตรให้ผลตอบแทนต่ำทั่วโลก ประกอบกับความผันผวนในตลาดการเงินที่เกิดจากการเมืองของโลก ส่งผลให้เกิดแรงเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ตลาดที่คาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยได้ช้าลง จะยิ่งช่วยหนุนราคาทองคำ
ดัชนีดอลลาร์ในวันนี้ทรงตัวอยู่ที่บริเวณ 95.661 จุด