นักวิเคราะห์คาด อีซีบี มีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักจากการทำประชามติของอังกฤษที่เลือกออกจากสหภาพยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรปคาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เองก็คาดเช่นนั้น
นักวิเคราะห์จาก Bank of America Merrill Lynch ระบุว่า หลังจากการทำประชามติของอังกฤษที่ออกจากอียู ส่งผลให้ยุโรปมีโอกาสเติบโตเพียง 1% มากขึ้น โดยยุโรปไม่สามารถเติบโตได้มากนักในระยะยาว เนื่องจากอัตราการว่างงานในระดับสูง และประสิทธิภาพการผลิตที่เติบโตอย่างเชื่องช้า
นักวิเคราะห์ฯ คาดการณ์ว่า ในการประชุมอีซีบีวันที่ 21 ก.ค. นี้ อีซีบีจะต้องชี้นำตลาดถึงการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในเดือน ก.ย.
ทั้งนี้ประธานอีซีบีจะมีกำหนดการขึ้นปาฐกถาในวันพุธนี้ เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทั้งนี้นอกจาก Merrill Lynch แล้ว Citigroup, J.P. Morgan และ Deutsche Bank เอง ต่างก็ระบุว่า เป็นไปได้ที่อีซีบีจะมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น
ธนาคารชั้นนำต่างลดคาดการณ์ GDP ลง หลัง Brexit
นักวิเคราะห์จาก Merrill Lynch ระบุว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญกับภาวะชะลอตัวเป็นระยะเวลา 3 ไตรมาส เริ่มจากไตรมาสที่ 3/2016 และลดคาดการณ์ GDP สู่ระดับ 1.4% (เดิม 2.5%) ในปีนี้ และ 0.2% (เดิม 2.5%) ในปี 2017 และลดคาดการณ์ GDP ยุโรโซน ปี 2017 สู่ระดับ 1.1% (เดิม 1.6%)
นักวิเคราะห์จาก Citigroup ลดคาดการณ์การเติบโตลง โดยคาดว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเติบโต 1.3% (เดิม 1.7%) ในปีนี้ และ 0.9% (เดิม 2.1%)ในปี 2017
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan เองก็ลดคาดการณ์เศรษฐกิจอังกฤษลงเช่นเดียวกัน โดยลดลงจาก 1.1% สู่ 0.6% ในปีนี้
PMI ภาคบริการจีน ออกมาดีที่สุดในรอบกว่า 11 เดือน
Caixin เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อจีนออกมาดีที่สุดในรอบกว่า 11 เดือน อย่างไรก็ดีดัชนี PMI โดยรวมนั้นทำจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยได้รับแรงกดดันจากภาคการผลิตที่ชะลอตัว
ดัชนี Caixin Service PMI ออกมา ณ ระดับ 52.7 จุด จากเดิมที่ 51.2 จุด
ทางการจีนนั้นกำลังพึ่งพาภาคการบริการเพื่อหนุนให้เศรษฐกิจเติบโต และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจให้เข้าสู่ประเทศที่พึ่งพิงการบริโภคภายในมากขึ้น และลดการพึ่งพิงการส่งออกและอุตสาหกรรมหนักลง
นักวิเคราะห์จาก CEBM Group ระบุว่า การเติบโตของภาคบริการนั้นช่วยหนุนภาคเศรษฐกิจโดยรวมเอาไว้ และการขยายตัวของภาคบริการนั้น มาในเวลาที่ภาคการผลิตหดตัว บ่งชี้ว่าโครงสร้างเศรษฐกิจของจีนกำลังเปลี่ยนแปลงไป และจะมีความสมดุลมากขึ้น
OPEC ผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในเดือน มิ.ย.
กลุ่ม OPEC ได้ผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในเดือน มิ.ย. โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 32.95 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 240,000 บาร์เรล/วัน จากเดือน พ.ค. นำโดยไนจีเรีย จากการที่ไนจีเรียซ่อมแซมพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันดิบ หลังจากที่ถูกโจมตีโดยกลุ่มติดอาวุธ โดยผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 90,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 1.53 ล้านบาร์เรล/วัน
ขณะที่ซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 70,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 10.33 ล้านบาร์เรล/วัน
น้ำมันดิบหดตัวลงในวันนี้
ราคาน้ำมันดิบ Brent ในวันนี้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากพื้นที่ผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียได้รับการซ่อมแซมและกลับมาผลิตน้ำมันดิบได้อีกครั้ง หลังถูกทำลายโดยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ในวันนี้ปรับตัวลดลง 1.08% สู่ระดับ 49.56 เหรียญ/บาร์เรล
ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.75% ในการประชุมวันนี้
ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยธนาคารกลางต้องการรอดูตัวเลขเงินเฟ้อที่จะมีการเปิดเผยในเดือนนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆต่อไปเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย
นายเกลน สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียกล่าวว่า ธนาคารกลางจะยังคงพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจ เพื่อประเมินแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยต่อไป