

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 287,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 175,000 ตำแหน่ง จากระดับ 38,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.9% หลังจากอยู่ที่ 4.7% ในเดือนพ.ค.
โดยภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 265,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 22,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้นเพียง 11,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 38,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนเม.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น144,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 123,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งนี้ ช่วยยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่งและอาจทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยได้มากขึ้น โดยนักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่า เฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. นี้สูงขึ้นสู่ระดับ 25% ในคืนวันศุกร์ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 12% ในวันพฤหัสบดี
อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ โดยผลการสำรวจของ Bloomberg ยังระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจ โดยอัตราค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ขณะที่อัตราการมีส่วนร่วมของกำลังแรงงานเพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 62.7% ซึ่งส่งผลให้อัตราว่างงานเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 4.9% จากเดิมที่ 4.7%
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก PNC Financial Services คาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ โดยคาดว่าเฟดจะรอดูข้อมูลของไตรมาส 3/2016 และการเลือกตั้งของสหรัฐฯเสียก่อน ดังนั้นจึงคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเช้าวันนี้ โดยเคลื่อนตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี แม้รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย จะออกมาระบุว่า ตลาดน้ำมันกำลังกลับเข้าสู่สมดุลก็ตาม
ขณะที่ข้อมูลแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น 10 แท่น นับเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ใน 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเหล่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯจะเริ่มเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปีหน้า